พ่อค้าข้าวกล่อง แจ้งความ ถูกตร.ชักปืนขู่ ไม่พอใจหลังมีปากเสียงกับเมีย
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 มีนาคม ที่ สภ.เมืองนครนายก นายนิวัฒน์ ศรีตะปันย์ อายุ 54 ปี พ่อค้าขายข้าวกล่องริมกำแพง ติด สภ.เมืองนครนายก เดินทางมาพร้อมภรรยาและลูกสาว เพื่อเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุรินทร์ สมบูตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เนื่องจากตอนเวลา 05.45 น. วันนี้ ขณะที่ตนขายข้าวกล่องติดกับกำแพง สภ.เมืองนครนายก ได้มีปากเสียงกับแม่ค้าขายโจ๊กที่ขายข้าวกล่องเหมือนกัน ตอนนั้นตนได้ขายข้าวให้กับลูกค้า ตนได้ยินแม่ค้าขายโจ๊กพูดขึ้นมาว่า “วันนี้มีสปาเกตตีโว๊ย ของลูกสาวกู” ตนจึงหันกลับไปมองและพูดกลับไปว่า “เรื่องของคุณ คุณจะขายก็ขายไป ผมก็ขายของผม” ต่อมาแฟนของแม่ค้าโจ๊กได้เข้าไปเอาอาวุธปืนออกมาข่มขู่ตน ก่อนที่จะมีอดีตข้าราชการตำรวจมาช่วยห้าม วันนี้ตนจึงมาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี
นายนิวัฒน์ ศรีตะปันย์ ผู้เสียหาย เล่าต่อว่าจากนั้นก็มีปากเสียงเถียงกันไปมาซักพัก สามีของแม่ค้าโจ๊ก (เป็นตำรวจ สภ.เมืองนครนายก) ออกมาด่าตน ว่าสถุล คนชั้นต่ำ กูไม่ลดศักดิ์ศรีไปคุยกับพวกมึง ควย ตนจึงพูดย้อนหลับไปว่า ควย มีอะไรมึงออกมาชกกับกูเลยดีกว่าข้างนอก จากนั้นสามีของแม่ค้าได้วิ่งออกมาและวิ่งกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งหยิบปืนออกมาจ่อตน ตอนนั้นมีอดีตตำรวจที่ขายของอยู่ข้างๆ กันได้เข้ามาช่วยดึงสามีแม่ค้าขายโจ๊กกลับเข้าไปในบ้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามตนสายปลายเหตุที่เกิดขึ้นว่าเริ่มมาจากอะไร นายนิวัฒน์ได้บอกว่า ก็มาจากเรื่องค้าขาย ที่ตนถูกอีกฝ่ายพูดจาแขวะใส่อยู่ตลอด จนกระทั่งมาครั้งนี้ได้มีการนำอาวุธปืนออกมาข่มขู่ เมื่อสอบถามว่าปืนที่คู่กรณีนำออกมานั้นเป็นของจริงหรือปลอม นายนิวัฒน์บอกว่ามั่นใจว่าปืนจริง เพราะอีกฝ่ายเป็นตำรวจอยู่ สภ.เมืองนครนายก
โดยตนมองว่าถึงจะขายของเหมือนกัน มันก็สิทธิของลูกค้าว่าพอใจจะซื้อของของใคร ใครจะขายอะไรก็เรื่องของเขา
ขณะที่นายศักดิ์ชัย พูลศิริ ทนาย จากสภาทนายความจังหวัดนครนายก ได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นได้เชิญให้นายนิวัฒน์ ศรีตะปันย์ ผู้เสียหาย เข้าพูดคุยพร้อมแนะนำข้อกฎหมาย และสิทธิของผู้เสียหาย เพื่อใช้ในการให้การกับพนักงานสอบสวนจากนั้น พ.ต.ท.สุรินทร์ สมบูตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก ได้เรียกนายนิวัฒน์ ศรีตะปันย์ ผู้เสียหาย พร้อมลูกสาว ไปให้ปากคำที่ห้องสอบสว
ขณะเดียวกับ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุที่อยู่ฝั่งหลังตลาดสดนครนายก โดยที่เกิดเหตุเป็นกำแพงของ สภ.เมืองนครนายก ด้านหลังรั้วเป็นบ้านพักข้าราชการตำรวจและยังเป็นบ้านพักของข้าราชการตำรวจที่เป็นสามีของแม่ค้าโจ๊ก พบว่า เป็นประตูทางออก ในตอนเช้าหน้าประตูมีร้านโจ๊กมาตั้งและมีโต๊ะนั่งด้านใน และริมฟุตปาธติดกับร้านโจ๊กเป็นร้านของผู้เสียหายที่ขายข้าวกล่อง โดยริมฟุตปาธสองข้างทางถนนเส้นนี้ถูกจัดให้เป็นตลาดเช้า พ่อค้าแม่ค้าจะนำสินค้า เปิดร้านขายของและอาหารเต็มสองข้างทาง แต่อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพบว่าบ้านพักหลังดังกล่าวไม่มีใครอยู่ ประตูบ้านคล้องแม่กุญแจเอาไว้ จึงไม่สามารถที่จะติดต่อหรือพูดคุยข้อเท็จจริงจากฝั่งแม่ค้าขายโจ๊กได้
เบื้องต้นทราบว่าชนวนเหตุเริ่มต้นมาจาก คนที่มาช่วยขายของร้านโจ๊กมักจะขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบังหน้าร้านของนายนิวัฒน์ ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยแจ้งบอกเตือนกันไป หลายครั้ง จนกระทั่งเริ่มมีปากเสียงกันมาตลอดระยะเวลาเป็นปี จนกระทั้งมาเกิดเหตุในครั้งนี้
