หนุ่มเทศกิจนครนนท์ ร้องวัตถุปริศนาคาดหล่นจากรถไฟฟ้า ร่วงใส่รถเก๋งขณะพาลูกกลับบ้าน โวยเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้ายื้อจ่ายชดเชยความเสียหาย
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 28 มีนาคม นายสมชาย โชติจันทราภรณ์ อายุ 39 ปี ตำแหน่งผู้ช่วยนักจัดการทั่วไป เทศบาลนครนนทบุรี เปิดเผย ว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ตนเองขับรถเก๋งเพื่อจะพาลูกชาย 2 คนกลับบ้านพัก อยู่บนถนนรัตนาธิเบศร์ในช่องคู่ขนานกำลังเข้าช่องทางหลักมุ่งหน้าไปทางแยกแคราย บริเวณใกล้แยกแคราย ได้ถูกวัตถุปริศนาร่วงหล่นลงมาใส่รถยนต์ของตน บริเวณขอบประตูที่นั่งด้านหลังเบาะคนขับ โดยเสียงวัตถุที่ตกมากระทบใส่รถเสียงดังมาก จนทำให้ลูก ๆ ของที่นั่งอยู่ในรถด้วยส่งเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจกลัว
นายสมชาย กล่าวอีกว่า หลังหายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ตนได้วนรถกลับมาที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจะดูว่าวัตถุที่ตกใส่รถตนเป็นวัตถุอะไรกันแน่ ซึ่งมีคนที่เห็นเหตุการณ์ชี้ให้ตนดูที่พื้นถนนซึ่งมีวัตถุคล้ายเหล็กประกบตกอยู่ที่พื้น บริเวณจุดที่รถของตนถูกวัตถุดังกล่าวตกใส่ บริเวณใต้ทางรถไฟฟ้าสายสีชมพู ตนจึงได้หยิบวัตถุดังกล่าวขึ้นมาดูก็พบว่า เป็นเหล็กแผ่นหกเหลี่ยม คล้ายกับอุปกรณ์ประกบชิ้นส่วนอะไรสักอย่างของรถไฟฟ้า แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นวัตถุชิ้นส่วนไหนของรถไฟฟ้า
หลังเกิดเหตุตนจึงได้นำวัตถุชิ้นดังกล่าวไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าแล้ว เพื่อให้รับผิดชอบค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของตนเอง แต่หลังเหตุการณ์ผ่านมา 2 วัน เรื่องก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จากทางรถไฟฟ้า ตนจึงตัดสินใจร้องสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือ
นายสมชาย กล่าวอีกว่า หลังจากที่ไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าแล้วว่าถูกวัตถุปริศนาของรถไฟฟ้าตกใส่รถจนได้รับความเายหาย ก็ถูกทางเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบ่ายเบี่ยงในทำนองที่ว่า วัตถุชิ้นดังกล่าวอาจจะเป็นชิ้นส่วนของรถยนต์ที่ลอยข้ามมาจากสะพานข้ามแยกแครายมาตกใส่รถตน
ตนจึงได้แย้งไปว่าในรถของตนกล้องมีวีดีโอบันทึกเหตุการณ์อยู่ ซึ่งในตอนที่มีวัตถุปริศนาชิ้นนี้มาตกใส่นั้น มีรถยนต์อีกคันหนึ่งจอดบังรถของตนอยู่ ซึ่งหากวัตถุปริศนาชิ้นนี้ปลิวลอยข้ามมาจากทางด้านข้างก็ต้องถูกรถเก๋งคันที่บังด้านข้างรถตนก่อน ไม่มาถึงรถตนแน่นอน และวัตถุชิ้นนี้ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก ประกอบกับเมื่อไปสำรวจดูรอยยุบที่รถของตนพบว่า
เป็นรอยที่เหมือนกับว่าวัตถุชิ้นนี้ตกจากที่สูงดิ่งลงมาใส่รถตน ไม่ได้เป็นรอยขวางที่มาจากทางด้านข้าง ซึ่งตนได้พยายามติดต่อให้ทางรถไฟฟ้าจ่ายค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของตน แต่ถูกทางเจ้าหน้าที่รถไฟฟ้าบ่ายเบี่ยงอ้างว่าต้องรอการตรวจสอบมา 2 วันแล้ว ตนจึงเกรงว่าเรื่องจะเงียบและไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจร้องขอความเป็นธรรม
