รวบอดีต อจ.วิทยาลัยชื่อดังขอนแก่น ตระเวนลักสายเคเบิลอินเตอร์เน็ตจว. อ้างตกงาน ทำมาหลายครั้ง มูลค่าเสียหายเกือบ 4แสน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 29 มีนาคม ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และเจ้าหน้าที่โทรคมนาคมจังหวัดขอนแก่น ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี อดีตอาจารย์สอนวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดขอนแก่น
ผู้ต้องหาลงมือตะเวนลักสายเคเบิลอุปกรณ์เชื่อมสัญญานอินเตอร์เน็ต ของโทรคมนาคมจังหวัดขอนแก่น ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ พร้อมของกลาง ประกอบด้วย อุปกรณ์แผงเชื่อมสัญญานตู้พักกลางทาง (Terminal Box) จำนวน 246 ตัว อุปกรณ์เชื่อมสัญญาI (โคเน่) ขนาด 25 คู่ จำนวน 13 ตัว อุปกรณ์เชื่อมสัญญาน (โคเน่) ขนาด 10 คู่ จำนวน 25 ตัว รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ-ชมพู ไม่ติดผ่านป้ายทะเบียน 1 คัน และชุดที่คนร้ายใช้สวมใส่ในวันก่อเหตุ
ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่าได้มีเหตุลักทรัพย์ตัดสายเคเบิล ของบริษัททีโอที บริเวณหน้าร้านเฟรมเรคคอร์ด ถนนหน้าเมืองตัดถนนพิมพสุต จึงเร่งทำการแกะรอยติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งจากการสืบสวนติดตามทราบว่าผู้ต้องหาเป็นชายวัยกลางคน
จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ไปตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด กระทั่งพบว่า คนร้ายเป็นชายสวมเสื้อคลุมแขนยาวสีครีม สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ-ชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิดมาเรื่อยๆ จนพบบุคคลลักษณะดังกล่าวขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมด้วยของกลางหลบหนีมุ่งหน้าตามถนนกลางเมือง
ต่อมาวันที่ 28 มีนาคม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ทำการขอหมายค้นและได้นำหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อไปถึงพบนางถาวร (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน นางถาวรได้พาตำรวจเข้าทำการตรวจค้นอุปกรณ์ของกลางจำนวนมาก วางอยู่บริเวณโรงจอดรถของบ้านดังกล่าว ซึ่งสอบสวนทราบว่า เป็นอุปกรณ์ที่นายศุภชัย ลูกชายของตนเป็นคนนำมาเก็บไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสอบสวนนายศุภชัย ซึ่งให้การรับสารภาพในเวลาต่อมา ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวตนเองได้ขโมยมาจากหน้าร้านเฟรมเรคคอร์ด แยกพิมพสุตตัดถนนหน้าเมือง เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา และใช้รถจักรยานยนต์ของตนเองขับขี่ไปก่อเหตุจริง โดยสาเหตุที่ทำลงไปเนื่องจากปัจจุบันตกงานและยังไม่มีงานทำ จึงได้ก่อเหตุในครั้งนี้เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
โดยอุปกรณ์ที่ขโมยมาได้ จะนำมาไว้ที่บ้าน ก่อนจะทำการชำแหละเอาทองแดงไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า ซึ่งจากจำนวนของกลางที่ตรวจยึดได้จำนวนมากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ผู้ต้องหาน่าจะก่อเหตุมานานและก่อเหตุในหลายพื้นที่
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาเคยเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อปี 2558 และพบว่าเคยถูกจับดำเนินคดีใน “ข้อหา ลักทรัพย์ตู้โทรศัพท์สาธารณะของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ(มหาชน)จำนวนหลายครั้ง เมื่อปี 2565 ในท้องที่ สภ.บ้านเป็ด ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์โดยใช้ ยานพาหนะฯหรือรับของโจร” ก่อนนำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนางชนิดา ธาตุศาสตร์ และ นายโกวิทย์ เสริมดำรงศักดิ์ ผู้ช่วยโทรคมนาคมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การก่อเหตุของผู้ต้องหา ได้สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินทางราชการเป็นอย่างมาก เนื่องจากตู้ส่งสัญญาณ 1 ตู้ มีมูลค่ากว่า 40,000 บาท ซึ่งตู้ส่งสัญญาณนี้จะทำหน้าที่กระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ต หมายเลขโทรศัพท์ ไปยังบ้านเรือนของประชาชนที่รับบริการ ตู้ละ 300 – 400 เลขหมาย
เมื่อคนร้ายก่อเหตุแต่ละครั้งก็จะเสียทั้งเงิน งบประมาณของทางราชการที่จะต้องนำตู้อุปกรณ์มาติดตั้งใหม่และสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ใช้บริการเป็นวงกว้างซึ่งของกลางที่ตรวจยึดมาได้ในครั้งนี้ คาดว่า เป็นอุปกรณ์ที่ได้จากตู้ส่งสัญญาณ เกือบ 10 ตู้ ซึ่งเป็นมูลค่าความเสียหายเกือบ 400,000 บาท ซึ่งยังไม่รวมความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการถูกคนร้ายลักขโมยไปแล้วยังหาตัวผู้ก่อเหตุไม่ได้
