จับกลางทาง! เด็กวัด ลักรถเก๋งเจ้าอาวาส ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก หลวงตายิ้มออกได้ของคืน

จับกลางทาง! เด็กวัด ลักรถเก๋งเจ้าอาวาส แจ้ง 3 ข้อหาหนัก หลวงตายิ้มออกได้ของคืน

จากกรณีสังกะลีวัดกลายร่างเป็นโจรหลังมาอาศัยอยู่วัดได้เพียงสัปดาห์เดียว ก่อเหตุขโมยรถยนต์ที่ญาติโยมนำมาถวายให้เจ้าอาวาส และทางวัดเอาไว้ใช้สำหรับออกรับกิจนิมนต์ ซึ่งเจ้าอาวาสได้เสียบกุญแจคารถไว้ โดยก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เดินเข้าไปหาเจ้าอาวาสวัดตามปกติ ก่อนเดินออกมาขับรถออกไป วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจล่าตัวมาดำเนินคดีนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม นายวัชระ หวานเมืองปักษ์ อายุ 32 ปี ลูกศิษย์วัดศิริธรรมิกาวาส บ้านโคกสี ต.โคกสี อ.เมือง จ.ขอนแก่น และพระลูกวัด ต่างพากันโห่ร้องด้วยดีใจ ทันทีที่เห็นรถยนต์ยี่ห้อ Toyota Camry สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน กต 8626 ขอนแก่น ของ พระครูสังฆรักษ์สมบูรณ์ สุวีโร เจ้าอาวาสวัดศิริธรรมิกาวาส ที่ถูกนายกิตติ หรือ แมน อายุ 33 ปี ที่มาขออาศัยอยู่ที่วัดได้เพียงสัปดาห์เดียว ก่อเหตุขโมยไป

Advertisement

ซึ่งนายวัชระและพระลูกวัด ได้พากันขับรถยนต์ของตนเองออกติดตามหารถยนต์ของเจ้าอาวาส ตามเส้นทางที่คนร้ายขับหนีไป จนกระทั้งไปพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ข้างทางของถนนสายทุ่งเขาหลวง-เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา จึงประสานตำรวจในท้องที่เข้าตรวจสอบรถ และสามารถติดตามจับกุมตัวนายกิตติ คนร้ายที่ขโมยรถมาได้ขณะกำลังนั่งอยู่ภายในบริเวณลานรับซื้อไม้ยูคาลิปตัส ห่างจากจุดพบรถยนต์ ประมาณ 300 เมตร

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ที่ผ่านมา นายวัชระ ลูกศิษย์วัดศิริธรรมิกาวาส พร้อมด้วยรองเจ้าอาวาสวัด และคณะโยมอุปัฏฐาก ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองไหม จ.ขอนแก่น และทำเรื่องขอรับรถยนต์คืน ภายหลังจากที่พนักงานสอบสวนได้มีการตรวจสอบสภาพรถยนต์และบันทึกภาพไว้ประกอบคดีแล้ว และได้ทำการสอบปากคำนายกิตติ ผู้ต้องหา ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นคนที่ขับรถยนต์ของเจ้าอาวาสไปจริง สาเหตุที่ขับไปเพราะต้องการขับไปหาภรรยาที่ จ.อุบลราชธานี

ซึ่งเบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ 1.ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม 2.เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ขณะมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย 3.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

Advertisement

นายวัชระเล่าว่า หลังจากที่ทราบว่ารถยนต์ประจำตำแหน่งของเจ้าอาวาสวัดถูกนายกิตติขโมยไป ตนและพระลูกวัดก็ได้พากันออกติดตามหารถคันนี้ทันที โดยขับรถไปตามเส้นทางที่คนร้ายมุ่งหน้าไป จนไปเข้าเขตจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลา 01.00 น. ก็ยังไม่พบ วันนั้นจึงพากันกลับมาที่วัดก่อน กระทั่งเช้าของวันถัดมาก็ได้พากันออกตามหาอีกครั้ง

โดยครั้งนี้มีเบาะแสเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้จากเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งให้ ซึ่งมีกล้องบันทึกภาพขณะที่รถยนต์ของเจ้าอาวาสขับผ่านในพื้นที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม จึงพากันขับรถตามไปเส้นทางนั้น ซึ่งในระหว่างที่ขับไปนั้น ภรรยาของนายกิตติ ซึ่งอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี ได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า ตอนนี้นายกิตติ อยู่ในพื้นที่ อ.เสลภูมิ โดยนายกิตติบอกภรรยาว่า จะไปหาภรรยาที่ จ.อุบลราชธานี แต่รถยนต์มีปัญหาและหิวข้าว จึงไปขอข้าวชาวบ้านที่ลานรับซื้อไม้ยูคาลิปตัสกิน ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจท้องที่ของ อ.เสลภูมิ และ อ.ทุ่งเขาหลวง ให้ช่วยสกัดรถเอาไว้ จนกระทั้งสามารถได้รถกลับคืนมาและจับกุมตัวนายกิตติเอาไว้ได้ ซึ่งนายกิตติก็ยอมรับว่า ตั้งใจขับรถจะไปหาภรรยาเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะเอารถไปขาย

ขณะที่ พระครูสังฆรักษ์สมบูรณ์ สุวีโร เจ้าอาวาสวัดศิริธรรมิกาวาส ยิ้มด้วยความพอใจ หลังจากที่เห็นรถยนต์ที่ถูกขโมยไปกลับคืนมาที่วัดในสภาพสมบูรณ์ พร้อมกับกล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้ทรัพย์สินของวัดกลับคืนมา ซึ่งรถยนต์คันนี้เป็นมรดกและทรัพย์สมบัติที่เจ้าอาวาสวัดรูปเดิมดูแลรักษาไว้ ตอนที่เกิดเหตุก็เสียใจ ต่อไปทางวัดก็จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image