ระวังภัย! รถบัสคณะครูจากสุรินทร์ พลิกคว่ำบนเขาโทน เจ็บ 13 ราย ก่อนถึงสงกรานต์บนถนนสายเสี่ยงภัย บนภูเขาผ่านบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ที่รถบรรทุกขนาดใหญ่-รถบัสโดยสาร มักเบรกแตกเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกๆ ปี ช่วงเกิดเหตุคณะครูเดินทางเพื่อมาดูงานที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรและพร้อมๆ กับมาส่งครูผู้ช่วยที่เพิ่งได้รับบรรจุใหม่ แต่เกิดเบรกแตกช่วงลงภูเขา
อีกแล้วเกิดอุบัติเหตุรายวัน บนเขาโทน ช่วงกำลังลงจากภูเขาบนถนนสายเสี่ยงภัย! ถนนสายสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา-กบินทร์บุรี) หรือถนนสาย 304 ที่ผ่านบนภูเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ถนนสายเสี่ยงภัย!บนภูเขาผ่านบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ที่รถบรรทุกขนาดใหญ่-รถบัสโดยสาร มักเบรกแตกเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกๆ ปี คราวนี้เป็นรถบัสคณะครูจาก จ.สุรินทร์ มาดูงาน แพทย์แผนไทยและส่งครูบรรจุใหม่เบรกไหม้พลิกคว่ำไถลไปชนท้ายรถบรรทุกไม้ ได้รับบาดเจ็บ 13 คน
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ศูนย์ป้องกันอุบัติภัยท้องถิ่น จ.ปราจีนบุรี (ศปถ.จ.ปราจีนบุรี) ได้มีรายงานแจ้งนายรณรงค์ นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี ระบุว่า เวลา 07.40 น. เกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ มี นายล้วน เป็นผู้ขับขี่ มาจากอำเภอวังน้ำเขียว มุ่งหน้าไปอำเภอกบินทร์บุรี
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้เสียหลักเฉี่ยวชนรถบรรทุกไม้ ทะเบียน พระนครศรีอยุธยา มี นายอราวิล เป็นผู้ขับขี่ เหตุเกิดบริเวณถนนทางหลวงหมายเลข 0304 ตอนควบคุม 0304 สี่แยกกบินทร์-วังน้ำเขียว กม.209+514 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย รวม 3 ราย มูลนิธิสัจจะพุทธธรรมนำผู้บาดเจ็บ สีแดง 1 ราย นำส่งส่งโรงพยาบาลนาดี มี สภ.วังขอนแดง อ.นาดี แขวงทางกบินทร์บุรี อำนวยความสะดวกการจราจร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่เกิดเหตุช่วงทางลงจากภูเขาหน้าศาลปู่โทน เป็นช่วงทางโค้งเกือบหักศอก มีความลาดชันสูงกว่า 45 องศา ทางลงจากภูเขาที่ผ่านระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ซึ่งเพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพลิกคว่ำไฟไหม้เมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค.นี้ ติดต่อมาถึงวันที่ 28 มี.ค. 66 รวมสามครั้งแล้ว ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์
ในที่เกิดเหตุพบรถบัส หมายเลยทะเบียนสุรินทร์ ด้านหน้าเขียน อ.แม่สุพิชฌาย์ทัวร์ พลิกคว่ำอยู่ข้างทาง ผู้โดยสารกำลังช่วยกันขนของที่อยู่ภายในออกมารวมที่ด้านนอก ใกล้กันพบรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา รถพ่วงบรรทุกไม้ ด้านท้ายได้รับความเสียหายเล็กน้อย
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ คณะครูจากโรงเรียนเทพอุดมวิทยา สังกัดสำนักงานการศึกษาเขตพื้นที่มัธยมศึกษาสุรินทร์ อ.สังขละ จ.สุรินทร์ จำนวน 23 คน กำลังเดินทางจะมาศึกษาดูงานแพทย์แผนไทย รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร หลังเพิ่งปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2566 หมาดๆ
และพากันเดินทาง ส่งครูผู้ช่วยที่ได้รับการบรรจุใหม่มารับราชการครูที่ ร.ร.ปราจีนกัลยาณี (ปกณ.) สังกัดสำนักงานการศึกษาเขตพื้นที่มัธยมศึกษาเขต 7 (ปราจีนบุรี, นครนายก, สระแก้ว) อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี พร้อมๆ กัน
โดยได้พากันออกเดินทางมาตั้งแต่เช้ามืด 1 ในของคณะครู ผู้ที่เดินทางมากับรถบัส เล่านาทีระทึกว่า ช่วงเกิดอุบัติเหตุนั้น ทุกคนตื่นหมดแล้ว ได้ยินเสียงคนขับตะโกนบอกว่า เบรกไหม้! เบรกไม่อยู่ ให้หาที่จับยึดไว้ จากนั้นรถก็เสียการทรงตัว แล้วพลิกตะแคงก่อนที่จะไถลไปชนกับรถพ่วง บรรทุกไม้ข้างหน้า โชคดีที่เป็นรถขนาดน้ำหนักบรรทุกหนัก สามารถชะลอความแรงของรถเบรกแตกในช่วงระหว่างลงจากภูเขาได้เป็นอย่างดี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 13 คน มีสองรายที่เจ็บมากแต่ไม่ถึงสาหัส
ขณะที่ นายอนาวิน คนขับรถบรรทุกไม้เล่าว่า ตนเดินทางมาจากกาญจน์กำลังจะไป จ.ระยอง มองเห็นเขามาเร็วแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไร ทำตัวไม่ถูกสุดท้ายก็เลยมาชนท้ายรถที่ตนขับ
ส่วน นายล้วน คนขับรถบัส บอกว่า เส้นทางถนนสายสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา-กบินทร์บุรี) หรือถนนสาย 304 ที่ผ่านบนภูเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี นี้ ตนมาประจำ จึงรู้ว่าช่วงไหนมีโค้ง-ลาดชันอันตราย วันนี้กำลังจะไปส่งคณะครู จากอีสานมาที่ อ.เมืองปราจีนบุรี มาถึงจุดเกิดเหตุ รู้ว่าเบรกไหม้เอาไม่อยู่ จึงตัดสินใจเอาข้างรถเบียดกับรถบรรทุกไม้ก่อนที่จะพลิกคว่ำ
ต่อมา เวลา 09.30 น. นายพงษ์สิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และนายธรรมรัฏฐ์ นายอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ได้เดินทางมาเยี่ยมคณะครูผู้ประสบเหตุและให้กำลังใจที่โรงพยาบาลนาดี
ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานเพิ่มเติม สำหรับถนนสุวินทวงศ์ (นครราชสีมา-กบินทร์บุรี) หรือถนนสาย 304 ที่ผ่านบนภูเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กับอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าลงสู่ภาคกลาง และภาคตะวันออกนี้ เป็นถนนสายเสี่ยงอันตราย ที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงทุกๆ ปี ตามประกาศแจ้งเตือนของกรมทางหลวง
ช่วงผ่านบนภูเขา ระหว่างอุทยานแห่งชาติทับลาน กับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จากเดิมก่อนหน้าที่ถนนแคบ รถวิ่งสวนทางกัน มีความลาดชันสูง มีหลายทางโค้งเป็นระยะทางไกลมากเกินกว่า 12 กม.เศษ คณะรัฐมนตรีได้มีมติขยายผิวการจราจรเป็น 4 ช่องการจราจร ให้การคมนาคมสะดวก-ปลอดภัย พร้อมมีการก่อสร้างอุโมงค์ลอดผ่านระหว่างอุทยานฯเป็นแห่งแรกของไทย ให้สัตว์ป่าเดินข้ามฝั่งไป-มาด้านบน และบางช่วงสร้างสะพานยกระดับให้สูงให้สัตว์ป่าเดินลอดผ่านในผืนป่าดงพญาเย็น งบประมาณหลายหมื่นล้านบาท แต่ภายหลังการก่อสร้างอุบัติเหตุต่างๆ ยังเกิดรุนแรงทุกๆ ปี ไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกขนาดใหญ่ หรือรถโดยสาร มักเบรกแตกช่วงลงจากภูเขา
