เจ้าหนี้ตลกชื่อดัง ยืนถือป้ายหน้าห้างต่อ ยันไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ผลิตน้ำพริกให้

เจ้าหนี้ตลกชื่อดัง ยืนถือป้ายหน้าห้างต่อ ยันไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ผลิตน้ำพริกให้

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 31 มีนาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีหญิงถือแผ่นไวนิลเดินทางมายืนชูป้ายทวงเงินจากนายจั๊กกะบุ๋ม นักแสดงตลก อยู่บริเวณป้ายรถประจำทางหน้าห้างดังกล่าว

สอบถามหญิงดังกล่าวชื่อนางปูนา เจ้าของแผ่นป้ายไวนิลทวงหนี้ ให้ข้อมูลว่า เงินที่นายจั๊กกะบุ๋มอ้างว่าเป็นเงินที่ทำธุรกิจร่วมกันไม่เป็นความจริงเลย ตนเป็นคนผลิตน้ำพริกปูนาปลากวน ก่อนหน้านี้นายจั๊กกะบุ๋มได้มาติดต่อให้ตนผลิตสินค้าให้เพื่อนำไปวางขายตามสถานที่ต่างๆ โดยมีการตกลงกันว่าทำให้เขาหนึ่งรอบเมื่อทำให้เขารอบใหม่เขาก็จะเอาเงินมาจ่ายตน แต่ปรากฏว่าเมื่อตนทำของให้เขาเสร็จ เขาไม่เคลียร์เงิน พอเขาไม่เคลียร์เงินตนก็ไม่ให้ของเขา เขาก็บอกถ้าแม่ไม่เอาของมาให้ แล้วเขาจะเอาที่ไหนไปขายเพื่อเอาเงินมาคืน

Advertisement

เขาอ้างว่าเอาของไปฝากร้านไว้ยังไม่ได้เงิน เอาอย่างนี้เอาของมาให้ผมก่อน ถ้าขายเสร็จแล้วได้ยอดนี้มาจะเอามาโปะให้ทั้งหมด ตนก็ทำให้อีกแต่ก็เป็นอย่างนี้ทุกรอบ จนสุดท้ายทนไม่ไหวจึงบอกเขาว่ามันไม่ไหวแล้ว เอาไปเยอะเกิน ยอดทั้งหมด 284,400 บาท ก็พยายามคุยมาตลอดโดยการจะไม่ทำของส่งให้เขา เขาก็เริ่มไม่พอใจ ถ้าไม่ทำของให้เขา เขาจะเอาของที่ไหนมาขาย ไม่มีของมาขายเขาก็ไม่มียอดคืนให้

จนสุดท้ายมีการเจรจากันอีกรอบ เขาบอกว่าจะมาขายของที่ห้างนี้ตรงที่ตนมาตามหาเขา เขาบอกทำของให้เขาหน่อย ตนก็โอเคทำให้ แต่ยอดล่าสุดไม่ถึงหมื่น ตนทำให้แล้วถามเขาว่าจะเคลียร์เมื่อไร วันนี้ได้ไหม คือวันที่ 24 มีนาคม พอวันที่ 26 มีนาคม ตนก็ทวงเขาไป เขาพิมพ์ตอบมาว่าเนื่องจากส่งของไม่ตรงตามเป้าหมาย ความคลาดเคลื่อนหลายอย่าง เสร็จจากงานนี้ก่อนถึงจะจ่ายเงินให้

Advertisement

วันที่ 29 ตนเดินทางมาที่นี่เพื่อจะมาดูว่าเขาขายสินค้าอะไร เขาขายได้จริงไหม พอมาถึงพบว่าเขาขายได้ช่วงที่ตนยืนอยู่ประมาณ 4 ชั่วโมง เขาขายได้ยอดประมาณ 10,000 กว่าบาท ตนก็เลยบอกว่าเอาอย่างนี้ ตนขอทุน เพื่อจะเอาไปทำของแล้วพรุ่งนี้เช้าจะเอามาส่งให้เขาขายตรงนี้ เขาตอบว่าผมไม่มีให้ ป้ากลับไปก่อน ถ้ามีเงินเหลือเดี๋ยวให้ ตนไม่เชื่อเขาหรอก ก็ทวงเขาอยู่นั่นแหละ เขาก็ตอบมา 4 ครั้งว่าไม่มี ไม่ให้ กลับไปก่อนเลยเดี๋ยวผมจะให้ถ้าผมมี

ระหว่างที่ป้าเดินทางกลับเขาก็พิมพ์ข้อความมาหาว่า ตนมาคุกคามมาปั่นป่วน มาเค้นเพื่อจะเอาหนี้เขา เขาไม่โอเค ลักษณะประมาณนี้ ตนก็คิดว่าเขาน่าจะมีเจตนาไม่จ่ายเงินคืนตนแล้ว ตนก็เลยไปปรึกษาคนที่เป็นผู้ใหญ่ของเขาเพื่อขอให้เขาไปคุยกับคนคนนี้ ว่าถ้าเอาของเขาไปจริงเป็นเรื่องแบบนี้จริง เคลียร์เขาก่อนไหม ไม่อย่างนั้นมันจะลุกลามไปใหญ่โต ตนไปขอความช่วยเหลือแบบนี้ แต่ผู้ใหญ่ท่านนี้บอกว่าเขาก็คงได้แค่บอก ส่วนที่เหลือคุณไปแจ้งความเอาเพราะว่าเป็นยักยอก

หลังจากนั้นตนได้ไปแจ้งความ แล้วทำป้ายนี้ขึ้นมาเพื่ออยากให้เขารู้ว่าตนไม่อยากทำ แต่สถานการณ์มันบีบคั้นให้ต้องทำ เพื่อให้เขารู้ว่าตนลำบากจริงๆ ตนต้องการยอดนี้จากเขาจริงๆ ออกมาเคลียร์กับตน จะจ่ายยังไง จะทยอยจ่าย หรือจะยังไงก็แล้วแต่ ออกมาเคลียร์กับตนเถอะ ขอตรงนี้ ตั้งแต่ตนมาชูป้ายเขาก็ไม่เคยติดต่อมาเลย แต่เขาโพสต์เฟซบุ๊กล่าสุดว่าไปแจ้งความแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 6 โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ดราม่าป้ายทวงหนี้จากคุณป้าคนหนึ่ง(ใครรู้จักป้าหรือคุณป้าเห็นโพสต์มาแสดงตัวได้นะ..สื่อจะสอบถามประเด็น) ป้าคนนึงมาทวงหนี้ โดยการนำป้ายมาแขวนไว้ที่บูธจัดงานในห้างเซ็นทรัลเวสเกต เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและให้ถอดป้ายออก รปภ.บอกว่า ป้าเขาเดินไปยืนถือป้ายที่หน้าห้างอีก เพิ่งกลับไปเมื่อกี้ค่ะ เหตุวันนี้ 30-3-67 ประมาณ 3 ทุ่ม สดๆ ร้อนๆ”

โดยในป้ายไวนิลทวงหนี้ เป็นโลโก้น้ำพริกปูนาน้ำปลากวน มีรูปและเบอร์โทรของอดีตตลกชื่อดัง นายนรเศรษฐ์ ทรงกลด หรือจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ข้อความว่า “ได้โปรดเมตตาคืนเงินค่าสินค้าให้เราด้วยเถอะ เงิน 284,400 บาท สำหรับบางคนอาจจะไม่เยอะ แต่สำหรับครอบครัวของเรา มันคือลมหายใจ 4 ชีวิต”

ต่อมาวันที่ 31 มีนาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ที่บูธขายน้ำพริกปูนาน้ำปลากวน อยู่ภายในห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อสอบเรื่องราวดังกล่าว แต่นายจั๊กกะบุ๋มเดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บางใหญ่ ผู้สื่อข่าวจึงไปที่ สภ.บางใหญ่ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น

โดยนายจั๊กกะบุ๋มชี้แจงว่า ตนเพิ่งมาทราบเรื่องหลังจากปิดร้าน โดยมีกลุ่มสต๊าฟจัดงานและเจ้าหน้าที่ของห้างมาบอก ตอนแรกตนก็ตกใจว่าเขาทำเพื่ออะไร ก่อนหน้านี้ก็มีการพูดคุยกันตลอด ล่าสุดก็คุยกันเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ส่วนเงินที่เป็นหนี้มันไม่ได้เป็นเงินกู้ยืม แต่เป็นเงินที่ลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน ตนบอกเขาว่าหลังเสร็จงานนี้ก็จะเคลียร์เงินส่วนหนึ่งคืนให้ ตนไม่ได้หนีไปไหน ยังโพสต์เฟซบุ๊กบอกตลอด ซึ่งตนมีหลักฐานในการพูดคุย

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นต้องขอโทษพ่อหม่ำและน้องเอ็มผู้จัดงาน รวมถึงห้างเซ็นทรัลเวสต์เกตด้วย ที่ทำให้เสียชื่อเสียงจนขยายเป็นวงกว้าง ส่วนวันนี้ที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันก็เพื่อเป็นหลักฐานว่าตนไม่ได้หลบหนีหรือเบี้ยวหนี้แต่อย่างไร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image