สวดยับ! ด่านห้วยโก๋นยังไม่เกิด ไร้ทิศทาง รับมือจีน-ลาวอัพเกรดคมนาคมไม่ทัน

 

วันที่ 3 กุมภาพันธ์  นายศรีรุ่ง รัตนศิลา รองประธานหอการค้าน่าน ฝ่ายยุทธศาสตร์ เปิดเผยถึงกรณีความร่วมมือพัฒนาโครงการรถไฟความเร็ว 160 กม./ชม. เชื่อมต่อจากประเทศจีน ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มายังประเทศไทยที่ จ.หนองคาย โครงการ “One Belt, One Road” เริ่มลงมือไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2559 ที่ผ่านมา คาดว่าจะเสร็จในระยะ 5 ปี โดยเฉพาะสถานีที่หลวงพระบางกำลังมีแผนขยายเมือง สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งเชียงแมน จอมเพชร ศูนย์ราชการและเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่เชื่อมเมืองหงสา แขวงไชยบุรี และด่านน้ำเงิน-ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ว่าได้รับหนังสือจากนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เชิญประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ จ.น่าน(กรอ.) วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้ และหอการค้าน่านจะนำเสนอแผนแม่บทพัฒนาด่านสากลชายแดนห้วยโก๋น เพื่อพิจารณาแก้ปัญหาขอใช้พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมบริเวณดังกล่าว เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลพิจารณา เมื่อคราวมาตรวจเยี่ยมจ.น่านที่ผ่านมา

“ต้องบอกอย่างนี้เลยว่า หอการค้าเองก็ยังงงๆ ก่งก๊ง เพราะเราผลักดันเรื่องโลจิสติกส์ คมนาคมและการขนส่งทุกอย่างเป็นเวลาที่ยาวนานมาก ด้วยหลายเหตุผลและยื่นหนังสือถึงมือนายกรัฐมนตรี 2 ฉบับแล้ว การขอใช้พื้นที่หน้าด่านสากลห้วยโก๋น เราผลักดันตั้งแต่ 1,000 ไร่ ถูกบีบลงมาเหลือ 574 ไร่ สุดท้ายล่าสุดเหลืออยู่ 350 ไร่ เราตามเรื่องไปถึงกระทรวงมหาดไทยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็รับลูกแล้ว ผลักดันกันมาตั้งแต่ต้นมาจนสุดปลายอุโมงค์ แต่วันนี้ภายในจังหวัดกลับยังไม่ขับเคลื่อนเลย อีกทั้งผู้ว่าฯบางคนที่ผ่านมาใส่เกียร์ว่างเพราะกลัวผลกระทบ” นายศรีรุ่งกล่าว และว่า ทูตานุทูตลาวเชิญคหบดีของจังหวัดและระดับประเทศไปประชุมร่วมกันที่หลวงพระบาง เพื่อหารือการค้าและเรื่องเส้นทางดังกล่าว รวมถึงรถไฟจากประเทศจีนซึ่งเคลียร์สถานีได้หมดแล้ว เอานายสถานีมาลงตามจุดแล้ว 5,000 คน แต่น่านยังไม่รู้เลยว่าจะไปในทิศทางไหน เพราะหน้าด่านห้วยโก๋นยังไม่เบ็ดเสร็จ ทั้งการพัฒนาเศรษฐกิจของ กรอ.น่าน เรื่องโนแมนแลนด์ ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ศุลกากร แขวงการทางน่านที่ 1, 2 ขนส่ง พัฒนาการจังหวัด อำเภอ สาธารณสุขเฉลิมพระเกียรติ รวมถึงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ห้วยโก๋น ทุกอย่างมีแต่เค้าโครงไว้เลื่อนลอย ไม่เป็นรูปธรรมจริง สภาพถนนหน้าด่านเองก็สูงชัน คดเคี้ยวและเป็นหลุมบ่อลึกอันตรายมาก

นายศรีรุ่งกล่าวว่า หอการค้าเคยจัดงาน “ฮีตฮอยชาวไทลื้อ” จ.น่าน มีเชื้อสายนี้อยู่ 7 หมู่บ้าน เมื่อไปตรวจสอบจากชาวจีนที่สิบสองปันนาชื่อหนานคำ ที่นั่นมีเชื้อไทลื้ออยู่ 3 ล้านกว่าคน ลองคิดดูง่ายๆ ถ้าเฉพาะคนเหล่านี้มากับการคมนาคมดังกล่าวพร้อมวงกลมเศรษฐกิจของการท่องเที่ยวในภูมิภาค 3 เมือง คือน่าน หลวงพระบาง เชียงรุ่ง นอกจากโรงไฟฟ้าหงสาจำหน่ายกระแสไฟให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ไปแล้วเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา นักลงทุนไทย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชื่อ “เจ๊ติ๋ม” ที่คุ้นเคยกับตนกำลังจะตั้งโรงงานผลิตไวน์ชั้นดีส่งขายทั่วโลกที่เมืองเงิน ชายแดนลาว – ไทย ปัจจัยภายนอกประเทศเขาพร้อม แต่ จ.น่านยังขยับหรือรับมืออะไรไม่ได้ทุกมิติ เพราะติดขัดปัญหาขอใช้พื้นที่ด่านสากลชายแดนห้วยโก๋น ทางออกคือรัฐบาลต้องให้ความสำคัญและสร้างตรงนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรมขึ้นเร็วที่สุด

Advertisement

“ถ้าไม่มีแผนรูปธรรมตั้งรับไว้ให้ดีเมืองจะเละ แม้มีสำนักงาน อบต. ศุลกากร สถานีตำรวจ ฯลฯ แต่ตั้งอยู่ระเกะระกะ ตั้งลอยและกระจัดกระจาย เพราะได้รับผ่อนปรนอนุญาตให้ใช้พื้นที่ต่างๆ ขณะที่ขออนุมัติพื้นที่ด่านชายแดนห้วยโก๋นตามแผนแม่บท สำรวจออกแบบโดย กรอ.สมัย 2 ผู้ว่าฯที่ผ่านมา อาคารทั้งหมดต้องรื้อออกแล้วสร้างใหม่ เป็นปัญหาที่ต่างก็เรียกร้องว่าตนจะได้อะไรทั้งที่ก่อสร้างบนพื้นที่ไม่ถูกต้องตั้งแต่แรก มิติทางการค้ายังเกิดขึ้นไม่ได้ ตนอยากถามว่าถ้ากระแสประชาคมอาเซียน ก่อสร้างเส้นทางและรถไฟความเร็วสูงมาแล้ว จ.น่านจะทำกันอย่างไร ไม่เฉพาะการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่รวมถึงการเสียเปรียบการค้าและลงทุนด้วย จึงพยายามประชาสัมพันธ์เตือนทุกฝ่ายให้รักษาที่ดินและสิ่งแวดล้อมสำหรับอนาคตของลูกหลาน โดยเฉพาะเท่าทันนโยบายของบางประเทศ ที่ส่งเสริมลงทุนและส่งออกพลเมืองไปต่างประเทศ” นายศรีรุ่งกล่าว

 

ทั้งนี้ ปัญหาความขัดแย้งด่านสากลห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ต่อเนื่องมานานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะก่อนโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่เมืองหงสา สปป.ลาวจะเริ่มลงมือก่อสร้าง เคยถกเถียงกันในที่ประชุม จ.น่าน เอกชนขอรื้อซุ้มประตูตัวด่านทิ้งไป เนื่องจากเป็นอุปสรรคในการขนย้ายเครื่องจักรขนาดใหญ่และวัสดุอุปกรณ์เข้าไปประกอบในโรงงานไฟฟ้าดังกล่าว มีการเสนอทุนหลายล้านบาทเพื่อก่อสร้างซุ้มประตูขึ้นใหม่ ต่อมาเมื่อการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าเสร็จแล้ว ปรากฏว่ามีการอนุมัติสร้างอาคารบางแห่งขึ้นแทน เช่น อาคารสำนักงาน อบต.ห้วยโก๋น กระทั่งเป็นปัญหาทับซ้อนกับการขอใช้พื้นที่ด่านสากลและแผนแม่บทของผังเมืองดังกล่าว รวมถึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ความไม่โปร่งใสอย่างกว้างขวาง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image