คนร้ายบุกรพ.สต.ทำร้ายจนท.สาวที่เข้าเวร หวังทำมิดีมิร้าย ก่อนชิงรถจยย.ชาวบ้านหลบหนี 

ไม่ใช่แค่ครูเวร จนท.รพ.สต.ก็ไม่รอด! คนร้ายบุก รพ.สต.ทำร้าย จนท.สาวที่เข้าเวร หวังทำมิดีมิร้าย ก่อนชิงรถ จยย.ชาวบ้านหลบหนี

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง ถูกคนร้ายบุกเข้ามาใน รพ.สต. พร้อมกับใช้มือปิดปากและบีบคอเจ้าหน้าที่ผู้หญิง ซึ่งอยู่เวรภายใน รพ.สต. โดยมีคลิปจากกล้องวงจรปิด แสดงให้เห็นว่าคนร้ายสวมเสื้อแขนยาวคอปกสีฟ้า กางเกงขาสั้น เข้ามาทางด้านหลัง ก่อนใช้มือปิดปากและบีบคอเจ้าหน้าที่ รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะดิ้นรน จนรอดพ้นเงื้อมมือของคนร้าย และวิ่งออกไปขอความช่วยเหลือ ขณะที่คนร้ายฉวยโอกาสวิ่งหลบหนีไป ต่อมาคนร้ายได้วิ่งหลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ห่างจาก รพ.สต.บ้านห้วยแอ่งไปประมาณ 150 เมตร พอดีกับที่นางราตรีขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ซูมเมอร์ เอ็กซ์ สีชมพู-ดำ ทะเบียน 1 กจ 4763 มหาสารคาม ออกมาจากบ้านพัก คนร้ายพูดจาข่มขู่ให้ลงจากรถ และได้ขี่ จยย.หลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้

ต่อมาวันที่ 8 เมษายน ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ท่าตูม และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานภายในที่เกิดเหตุ ณ รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง พร้อมกับนำขวดน้ำ ผ้าก๊อซ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะมีลายนิ้วมือของคนร้าย ไปตรวจสอบเพื่อหา DNA ประกอบสำนวนคดี

Advertisement

สอบถาม น.ส.นันทิดา (สงวนนามสกุล) หรือหมอหนูแดง อายุ 31 ปี เล่าว่า เมื่อวานขณะตนกำลังเข้าเวร โดยนั่งอยู่ที่โต๊ะบริการจุด one stop service ได้มีชายสวมเสื้อแขนยาวคอปกสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ ใส่รองเท้าแตะ เข้ามาภายใน รพ.สต. โดยมาขอใช้บริการล้างแผลที่บริเวณน่องขวา มีแผลเย็บ ซึ่งตนเองดูแผลแล้วพบว่าแห้ง ไม่ต้องล้าง ก็ได้สอบถามถึงบัตรประชาชนเพื่อจะได้ตรวจสอบสิทธิ คนร้ายบอกว่าไม่ได้เอาบัตรมา เดินทางมาจาก จ.ร้อยเอ็ด ทะเลาะกับแม่มา และกำลังจะไปหาพระในจังหวัดมหาสารคาม จะต้องเดินเท้าไป

พอตนไม่ล้างแผลให้ ก็บอกว่าปวดแผล ขอยาพาราฯ ตนจึงให้ไป 1 แผง แต่คนร้ายแกะกินแค่ 1 เม็ด ก่อนจะเดินออกไป จากนั้นไม่นาน รอบที่ 2 คนร้ายก็เดินเข้ามาอีก บอกว่าที่เท้าเป็นแผลถลอกจากรองเท้ากัด และเดินมาไกล ขอพลาสเตอร์ปิดแผล ตนก็หยิบส่งให้ โดยให้คนร้ายนำไปติดแผลเอง และรอบที่ 3 ก็มาขอพลาสเตอร์ปิดแผลอีก ขอสำลีเพิ่ม เพราะอันเก่าหลุด แล้วคนร้ายก็ขอยาพาราฯ อีก 2 เม็ด ตนให้พลาสเตอร์ยากับสำลี แต่ไม่ได้ให้ยาพาราฯ พร้อมได้อธิบายคนร้ายว่ายาพาราฯ ต้องกินทุก 4-6 ชั่วโมง

Advertisement

คนร้ายบอกว่า จะเข้าไปในตัวเมืองมหาสารคาม แต่ขอมารอรถโดยสารสีชมพูที่บริเวณศาลาใน รพ.สต.ได้หรือไม่ ตนตอบไปว่าไม่ได้ ให้ไปรอที่ศาลารอรถด้านนอก ก็เหมือนจะเข้าใจ คนร้ายก็ขอบคุณแล้วก็ออกไป

หลังจากนั้น ตนเดินสำรวจรอบ รพ.สต. สำรวจว่าคนร้ายได้ออกไปจริงๆ แต่ตนรู้สึกถึงความผิดปกติ เลยแชตไลน์กลุ่มคุยกับเพื่อนว่าจะทำอย่างไรดี เหตุการณ์มันแปลกๆ จะแจ้งความดีหรือไม่ ซึ่งคนร้ายได้เข้ามาอีกเป็นรอบที่ 4 โดยเข้ามาอีกประตู ก่อนจะเอามือปิดปากตน อีกมือก็บีบคอ ตนสู้สุดแรง อยากจะร้องให้คนช่วยแต่ร้องไม่ออก พอสะบัดหลุดก็รีบวิ่งออกไปที่ด้านนอก พร้อมกับกรี๊ดและตะโกนให้คนช่วย ซึ่งชาวบ้านแถวนั้นเห็นความผิดปกติ เลยรีบวิ่งมาดู ส่วนคนร้ายก็วิ่งหลบหนีไปทางเข้าตัวเมืองมหาสารคาม ก่อนที่ตนจะไปแจ้งตำรวจ

ตนเคยดูแต่ในข่าวไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เห็นข่าวครูที่เชียงใหม่ก็ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง รู้สึกตกใจมากๆ รู้สึกว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก น่ากลัวมาก ตนยังเจ็บที่คอนิดหน่อย แต่อาการโดยรวมไม่ได้รุนแรงอะไร

นางกรรณิการ์ โง่นสุข ผอ.รพ.สต.บ้านห้วยแอ่ง กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุตนไม่อยู่ มีเพียงน้องหนูแดง กับน้องสาวมาอยู่เป็นเพื่อนกันที่ รพ.สต. แต่ช่วงที่เกิดเหตุ น้องสาวอยู่อีกห้องทางด้านหลังจึงไม่ได้ยินเสียง ก่อนที่จะมาทราบข่าวว่าน้องหนูแดงถูกทำร้าย ก็เลยสอบถามน้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็บอกว่าปลอดภัยแล้ว น้องส่งคลิปให้ดู ก็เลยบอกน้องให้ไปแจ้งความ ซึ่งตนตกใจมาก เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

ทาง สภ.ท่าตูม ได้มาดูที่เกิดเหตุ และน้องหนูแดงให้ปากคำในเบื้องต้นแล้ว คนร้ายไม่ใช่คนในพื้นที่ ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน โดยปกติการรับบริการต้องมีการใช้บัตรประชาชนยืนยันตัวตน แต่ด้วยความที่คนไข้แวะมา ก็ไม่สามารถปฏิเสธการรักษาได้ ก็พิจารณาเป็นรายๆ ไป อย่างรายไหนที่มีความเสี่ยง เราจะระมัดระวังตัวเอง แต่ด้วยน้องหนูแดงเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ได้เพียงปีกว่าๆ อาจจะยังไม่มีประสบการณ์มากนัก และอาจจะไม่ได้คิดถึงความเสี่ยงกับตัวเอง ใจคงคิดแต่อยากให้บริการผู้ป่วยมากกว่า ส่วนใหญ่เวลาเจ้าหน้าที่อยู่เวร จะเปิดประตูไว้ด้านเดียว แต่พอดีว่าวันเกิดเหตุ อสม.จะมาส่งเอกสาร เลยเปิดประตูไว้ 2 ประตู จึงเกิดเหตุการณ์ขึ้น หลังจากนี้จะต้องป้องกันเหตุเพิ่มเติม โดยช่วงเวลาเข้าเวรจะจัดเจ้าหน้าที่มาเข้าเวรครั้งละ 2 คน และขอเข้าแผนครุภัณฑ์ เพื่อจัดซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งเพิ่มเติม

ด้านนายเกียรติศักดิ์ คำนวนอินทร์ ซึ่งมาทำแผลที่ รพ.สต. เล่าว่า เมื่อวานเพื่อนในหมู่บ้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนที่คนร้ายจะไปชิงรถ จยย.ของนางราตรี คนร้ายได้มาโบกรถของเพื่อนตน เพื่อนตนก็จอดรถสอบถามว่าเป็นอะไร ไปยังไงมายังไง คนร้ายบอกกับเพื่อนว่าถูกทำร้ายมาให้ไปส่งที่ตัวเมืองมหาสารคาม แต่เพื่อนของตนไม่ไป คนร้ายเลยกระโดดคร่อมที่ด้านหลัง เพื่อนตนก็บิดรถหนี คนร้ายเลยตกรถ ไม่ได้รถไป ก่อนที่คนร้ายจะไปชิงรถของนางราตรี

ด้าน น.ส.นงนภัส โสดาวิชิต หลานสาวของนางราตรี เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนอยู่หลังบ้าน ป้ากำลังขี่รถ จยย.ออกไปซื้อของ พอดีคนร้ายวิ่งมา เหมือนกับวิ่งออกกำลังกาย ป้าเลยหยุดรถให้ แต่ปรากฏว่าคนร้ายได้มาพูดจาบอกให้ป้าลงจากรถ แล้วจับแฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ ด้วยความกลัว ป้าก็ลงรถ แล้วคนร้ายก็ขี่รถหลบหนีไป

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม ได้ลงพื้นที่ติดตามคนร้ายจากกล้องวงจรปิด และเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี เบื้องต้นมีรายงานว่ามีพลเมืองดีพบเห็นคนร้ายอยู่ในพื้นที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นคนร้ายจริงหรือไม่ ซึ่งหากใครพบเห็นบุคคลที่มีลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งได้ที่ สภ.ท่าตูม หรือที่งานสืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image