หลังสงกรานต์ โรงจำนำแน่น ประชาชนแห่ใช้บริการคึกคัก ทองคำได้รับความนิยมสูงสุด
หลังช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งสูงทำนิวไฮทะลุกว่า 4 หมื่นบาทแล้ว ทำยอด ปชช.แห่ใช้บริการโรงจำนำ ช่วงหลังเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ แห่ทั้งนำทองคำมาจำนำ-ไถ่ถอนไปขายต่อได้ราคาที่สูงขึ้น-มาขอเพิ่มยอดเงินที่เคยจำนำทองคำไว้จากเดิม คึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมา ด้านโรงรับจำนำ หรือสถานธนานุบาล ทม.ชัยภูมิ พร้อมอัดเงินหมุนเวียน-เงินสำรอง ไว้ให้บริการเพิ่มกว่า 150 ล้านบาท
ชัยภูมิ-วันที่ 17 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหลังการฉลองเทศกาลสงกรานต์หรือวันปีใหม่ไทย เสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วในปี 2567 นี้ ส่วนหนึ่งทำให้บรรยากาศที่สถานธนานุบาล (โรงรับจำนำ หรือโรงตึ๊ง) ในหลายพื้นที่ประชาชนในแต่ละพื้นที่ต่างเดินทางมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมากทุกปี
และขณะที่ จ.ชัยภูมิ ในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ หลังเป็นวันเปิดทำงานวันแรก หลังหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2567 มานานตั้งแต่ 12-16 เม.ย.ที่ผ่านมา เพื่อเปิดทำการในวันนี้ หลังประชาชนพากันออกไปทำบุญ เที่ยวเล่นน้ำฉลองสงกรานต์ตามสถานที่ต่างๆ กันอย่างสนุกสนานคึกคักกว่าทุกปีที่ผ่านมาในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ
ทำให้บรรยากาศที่มีผู้นำสิ่งของมีค่ามาใช้บริการในโรงจำนำกันจำนวนมากตั้งแต่เปิดทำการเวลา 08.30 น. เนื่องจากเงินขาดมือ ขาดสภาพคล่อง สิ่งของที่นำมาจำนำมากที่สุดในช่วงนี้คือทองคำ ที่ถือว่าราคาทองคำมีราคาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้ด้วย ที่ปัจจุบันราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 41,400 บาท และราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 41,900 บาท
ทำให้สิ่งของที่ประชาชนเงินขาดมือนำมาจำนำมากที่สุด ยังคงเป็นทองรูปพรรณไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ หรือแหวน ที่ทางโรงจำนำคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษเพียงร้อยละ 50 สตางค์ ในวงเงินจำนำไม่เกิน 5 พันบาท หาก วงเงิน 5 พันบาทขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 บาทต่อเดือน มีระยะไถ่ถอน 4 เดือน ส่วนใหญ่จำนำเต็มราคาเท่าที่จะจำนำได้
นอกจากนั้นยังพบมีผู้นำตั๋วจำนำทองคำไว้เดินทางมายื่นโรงจำนำเพื่อมาขอเพิ่มวงเงินจำนำทองคำรูปพรรณไว้ จากที่เคยจำนำไว้ที่บาทละ 26,000 บาท หรือ 28,000 บาท (ไม่เกิน 30,000 บาท/ทองคำหนัก 1 บาท) มาติดต่อขอเพิ่มวงเงินจำนำสูงขึ้นหลังที่ทองคำรูปพรรณมีราคาสูงขึ้นในขณะนี้ด้วย ซึ่งที่สถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ รับจำนำทองคำรูปพรรณที่บาทละ 30,000 บาทสูงสุดที่เคยรับจำนำมา เพื่อที่จะได้เงินจำนำเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2,000 บาท ไปจนถึง 5,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวที่เงินขาดมือในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นจำนวนมากกว่าทุกปีในปีนี้ด้วย และสิ่งของที่นำมาจำนำรองลงมาจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่ปีนี้ถือว่ามีไม่มากนัก เนื่องจากได้ราคารับจำนำที่ราคาไม่สูงมาก
ด้าน น.ส.จินดา ความสวัสดิ์ ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ แจ้งว่า ปัจจุบันสถานธนานุบาลเทศบาลเมืองชัยภูมิ มีเงินหมุนเวียนประมาณ 100 ล้านบาท มีเงินสำรองอีก 50 ล้านบาท ซึ่งในช่วงหลังสงกรานต์ปีนี้ ยังมีเงินเพียงพอสำหรับให้บริการประชาชน ที่คาดว่าหลังฉลองสงกรานต์ปีนี้ จะมีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ด้วย เฉพาะในวันนี้ที่เปิดทำการเป็นวันแรกหลังสงกรานต์ก็มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการหนาแน่นวงเงินไม่น่าจะต่ำกว่า 15 ล้านบาทแล้ว
