รวบ ‘การ์ดร้านดัง’ ปาขวดโซดาจากสะพานพระราม 4 อ้างทำไปเพราะเมา กลัวแฟนจับได้ว่าดื่มเหล้า

รวบ ‘การ์ดร้านเหล้า’ ปาขวดโซดาจากสะพานพระราม 4 รับโยนไป 3 ครั้ง อ้างทำไปเพราะเมา-กลัวแฟนจับได้ว่าดื่มเหล้า

เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ติรัส ตฤณเตชะ รอง ผกก.สส.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ต.ดิลก ลาดศิลา สว.สส.สภ.ปากเกร็ด พร้อมชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้จับกุมตัวนายนิพนธ์ฐากิ  หรือนายอัฐ อายุ 26 ปี การ์ดร้านเหล้าชื่อดัง พร้อมของกลาง คือ 1.อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด.38 บรรจุในรังเพลิง จำนวน 5 นัด และเครื่องกระสุนปืนอีกจำนวน 12 นัด 2.รถจยย.สีน้ำเงิน-ดำ ทะเบียน 2 ขส 3568 กรุงเทพมหานคร 3.เสื้อเกราะยี่ห้อ Kenya จำนวน 1 ตัว

ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์หรือลักของโจร , ทำให้เสียทรัพย์ , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต , ครอบครองยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะ) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยจับกุมตัวได้ที่ร้านเหล้าชื่อดังย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี


สืบเนื่องจากกล้องวงจรปิด CCTV เทศบาลนครปากเกร็ด บันทึกภาพเหตุการณ์วันที่ 20 เมษายน 67 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 04.00 น. นายนิพนธ์ฐากิ ได้ขี่จยย.กลับจากที่ทำงานร้านเหล้าชื่อดังย่านบางใหญ่ ขึ้นสะพานพระราม 4 มุ่งหน้าห้าแยกปากเกร็ด ขณะที่มาถึงช่วงก่อนลงสะพานพระราม 4 ได้โยนขวดโซดาจากบนสะพานพระราม 4 ลงมาด้านล่าง ซึ่งไปตกแตกอยู่บริเวณหน้าตลาดพิชัยปากเกร็ด ขณะที่พ่อค้า-แม่ค้า กำลังตั้งร้านขายของ ทำให้มีผู้เสียหายได้รับถูกขวดโซดากระแทกรถ ทำให้ชาวบ้านหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

Advertisement

โดยผู้ต้องหาก่อเหตุลักษณะนี้ 3 วัน ในระหว่างวันที่ 20-22-24 เม.ย. 67 ช่วงเวลาประมาณ 04.30 น. ของทุกวัน และหลังก่อเหตุผู้ต้องหาจะขี่รถจยย.วนมาตรวจจุดที่ปาขวดลงด้านล่างทุกครั้ง เพื่อเช็กว่ามีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่

หลังเกิดเหตุทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ทำการสืบสวนสอบสวนไล่กล้องวงจรปิดจนกระทั่งทราบตัวผู้ก่อเหตุ ว่าได้ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ร้านเหล้าชื่อดัง ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและร่วมกันเดินทางไปทำการตรวจสอบ

Advertisement

เมื่อไปถึงพบนายนิพนธ์ฐากิ อยู่ที่หน้าร้านดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตัวว่าเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ก่อนขอทำการตรวจค้นตัว จากการตรวจค้นพบของกลางอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนอยู่ในเสื้อเกราะ ที่นายนิพนธ์ฐากิ สวมใส่อยู่จริง จึงได้สอบถามนายนิพนธ์ฐากิ

โดย นายนิพนธ์ฐากิ รับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าวเป็นของพี่สาวที่เป็นตำรวจของแฟนตนเอง และจากการสอบถามนายนิพนธ์ฐากิ  รับว่าตนเองไม่เคยได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวพร้อมด้วยของกลางมาที่ สภ.ปากเกร็ด

หลังจากตำรวจทำการตรวจสอบอาวุธปืนพบว่า ปืนดังกล่าวถูกทางเจ้าของปืนซึ่งพี่สาวของแฟนผู้ก่อเหตุ และเป็นตำรวจหญิง สังกัด สอท. ได้แจ้งหายกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2566 ว่าอาวุธปืนได้หายหลังเก็บไว้ที่ลิ้นชักห้องนอน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ตำรวจจึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาและอายัดตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายนิพนธ์ฐากิ กล่าวว่า ตนเป็นการ์ดอยู่ร้านเหล้าแถวบางใหญ่ ยอมรับว่าเป็นคนปาขวดโซดาลงมาจากสะพานพระราม 4 ทั้ง 3 ครั้ง ยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องหรือทะเลาะกับใคร ที่ทำไปแบบนั้นเกิดจากความเมาทำให้ขาดสติ และไม่อยากให้แฟนที่อยู่บ้านรู้ว่าตนดื่มเหล้ามา

นายนิพนธ์ฐากิ กล่าวว่า สาเหตุที่นำขวดโซดามาเพราะว่าทุกครั้งที่ดื่มเหล้าแล้วมิกเซอร์เหลือ ก็จะนำขวดโซดาติดมือมาด้วย ก่อนถึงบ้านกลัวถูกจับได้ว่าดื่มเหล้าเลยโยนขวดโซดาทิ้งกลางทางไม่ได้คิดอะไร ซึ่งตอนนี้สื่อได้นำเสนอเรื่องที่ตนก่อเหตุไปหลายช่อง จึงอยากขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อน รับปากจะไม่ทำแบบนี้อีก

นายนิพนธ์ฐากิ กล่าวว่า ส่วนเรื่องอาวุธปืนทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามทางนายอัฐ (ผู้ก่อเหตุ) ว่าได้ก่อเหตุลักทรัพย์ปืนพี่สาวของแฟนตัวเองที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหรือไม่ ทางนายอัฐตอบเพียงประโยคเดียวสั้นๆว่า “ถ้าแฟนรู้ผมตายแน่”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image