ขอกู้ศักดิ์ศรี! ‘อดีตผู้กำกับ’ เปิดใจ หลังศาลยกฟ้อง คดีนักธุรกิจดังหาดใหญ่ กล่าวหาเป็นชู้กับอดีตเมีย

ขอกู้ศักดิ์ศรี! ‘อดีตผู้กำกับ’ เปิดใจ หลังศาลยกฟ้อง คดีนักธุรกิจดังหาดใหญ่ กล่าวหาเป็นชู้กับอดีตเมีย

เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ต.อ.สุรพงษ์ กิตติธิรางกูร อดีต ผกก.สภ.ควนโดน จ.สตูล ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกหลังจากที่ถูก นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จ.สงขลา ฟ้องร้องกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับอดีตภรรยา เมื่อปี 2561 และมีการสู้คดีจนถึงศาลฎีกา ที่สุดศาลฎีกายกฟ้องเพราะพยานหลักฐานไม่น่าเชื่อถือ และพยานหลักฐานบางอย่างสร้างหลักฐานเท็จขึ้น

พ.ต.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า ศาลฎีกาตัดสินยกฟ้องตั้งแต่เดือน ธ.ค.2565 ผ่านมากว่า 1 ปี แต่ที่ต้องออกมาชี้แจงเพราะว่าตนยังตกเป็นจำเลยสังคมมาตลอด ส่งผลกระทบกับหน้าที่การงานและการดำเนินชีวิต ขณะนี้อาจจะยังไม่มีใครรู้ว่าคดีศาลฎีกายกฟ้องไปนานแล้ว แต่หลายคนยังเข้าใจผิดคิดว่าคดียังไม่จบและตนเป็นคนผิด เรื่องที่ถูกสอบทางวินัยคณะกรรมการสอบสวนก็ยุติเรื่องไปแล้วเช่นกันเพราะไม่มีความผิด

พ.ต.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า ความจริงอีกเรื่องที่หลายคนอาจจะไม่ทราบ คือ เรื่องที่ตนฟ้องร้องนายทอมมี่ ที่กล่าวหาว่าตนมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับภรรยา และยังถูกตามฆ่าหลายครั้ง อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล นายทอมมี่ ได้ยกมือไหว้ขอขมาให้ตนยกโทษให้ เพราะว่าสำนึกและเสียใจและจะไม่สร้างข่าวเท็จให้เสียหายอีก ตนสงสารและยอมยกโทษและถอนฟ้องให้เพราะเห็นว่าสำนึกผิดจริง

Advertisement

“หากผมเป็นชู้จริง ไม่มีลูกผู้ชายคนไหนที่ยอมเสียศักดิ์ศรียกมือไหว้ขอขมาและขอบคุณชู้ที่ยอมยกโทษให้แน่นอน” พ.ต.อ.สุรพงษ์กล่าว

พ.ต.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า ที่หนักมากคือกรณีที่ภรรยาใหม่ของนายทอมมี่ เอาใบปลิวไปออกข่าวผ่านสื่อว่าตนไปเรียกรับเงินผู้ต้องหาคดียาเสพติด ไปข่มขืนภรรยาผู้ต้องหาจนท้องแล้วให้ทำแท้ง และมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง สุดท้ายแล้วไม่มีความผิดและสวนทางกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง คณะกรรมการได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยไปสอบถามผู้ต้องหาในเรือนจำ พบว่าคดีนี้เป็นคดีลักทรัพย์ไม่ใช่คดียาเสพติด ผู้ต้องหาไม่เคยมีเมียมาก่อน และไม่เคยรู้จักกับตนด้วย ถ้ามันเป็นเรื่องจริงให้ภรรยาใหม่ของนายทอมมี่หาพยานหลักฐานมาสู้กัน ซึ่งตนพร้อมที่จะพิสูจน์ความจริง ตนได้แจ้งความเอาผิดกับภรรยาใหม่ของนายทอมมี่ และพนักงานสอบสวนได้ส่งฟ้องเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ

“ผมตกเป็นจำเลยสังคมมาตลอดหลังจากที่ถูกฟ้องร้องเรื่องชู้สาว และมีความพยายามสร้างข่าวเท็จผ่านสื่อมวลชนทั้งสื่อหลักและสื่อโซเชียล จนทำให้สังคมเข้าใจผิดและเสียชื่อเสียง แต่ก็อดทนไม่ตอบโต้และสู้คดีมาตลอดเพื่อแสดงความบริสุทธิ์และสุดท้ายศาลฎีกาก็ยกฟ้องเพราะตนไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาเพราะไม่ใช่เรื่องจริง”

Advertisement

พ.ต.อ.สุรพงษ์กล่าวว่า บางเรื่องถ้าคู่กรณีสำนึกผิดตนก็พร้อมที่จะให้อภัยและยอมความได้ แต่เรื่องไหนที่ตนถูกสร้างเรื่องใส่ร้ายพร้อมที่จะสู้เพื่อพิสูจน์ความจริง และยังมีอีกหลายเรื่องที่ตนยังไม่อยากเปิดเผยในขณะนี้ จะรอเวลาที่เหมาะสม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image