ศาลพิพากษา จำคุกหลานสาว ส.ส.ดังสงขลา 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย

ศาลพิพากษา จำคุกหลานสาว ส.ส.ดังสงขลา 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ร่วมกับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่คณะกรรมการธุรกรรม ปปง. เข้าทำการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 12 จุด ในอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ต้องหาบุกรุกโบราณสถานเมืองสงขลาเก่า ซึ่งประกอบด้วย โบราณสถานเขาแดงและเขาน้อย ซึ่งมีการดำเนินคดีอาญากับผู้ต้องหาใน 3 คดี ซึ่งกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาได้ตั้งคณะทำงานสืบทรัพย์ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินของ นางณัฐณรันต์ จันทร์สว่าง หรือ เจ๊อ้อย พี่สาว นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.เขต 5 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กับพวก รายงานไปยังเลขาธิการ ปปง. ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรม ปปง.มีมติให้ยึดทรัพย์ซึ่งเป็นที่ดิน จำนวน 5 แปลง ตามคำสั่งที่ ย 201/2566 ลงวันที่ 4 กันยายน 2566 มูลค่าที่ดินรวมประมาณ 1 ล้าน 1 แสนบาท มีราคาซื้อขายจริงไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาทนั้น

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีที่สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ใน 3 คดี โดยในวันนี้ศาลจังหวัดสงขลาได้ขึ้นบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่ 81/2565 ที่มี นายปอน เลิศเฉลิมวงศ์ พนักงานขับรถแบ๊กโฮ และ นางสาวจันทิมา จันทร์สว่าง บุตรสาวของ นางณัฐณรันต์ จันทร์สว่าง หรือเจ๊อ้อย และนายชาญชญา จันทร์สว่าง หรือนายกแป็ก อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร เป็นจำเลย โดยศาลได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษานานประมาณ 40 นาที

โดยพิพากษาให้ จำคุกนายปอน เลิศเฉลิมวงศ์ 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา และนางสาวจันทิมา จันทร์สว่าง ศาลพิพากษาให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา เช่นเดียวกัน โดยในวันนี้ทั้งนางณัฐณรันต์และนายชาญชญาได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีของบุตรสาวด้วย

Advertisement

นอกจากนั้น นางณัฐณรันต์และนายชาญชญา รวมถึง นายกอง จันทร์สว่าง นายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร ก็ยังเป็นผู้ต้องหาในคดีที่ 154/2565 บุกรุกโบราณสถานเขาน้อย ในจุดที่มีการขุดดินลูกรังออกไปขายเป็นหลุมลึก ซึ่งทำให้ เจดีย์เขาน้อยอายุ 1,400 ปี มีความเสี่ยงที่จะทรุดตัวลงมา ที่ขณะนี้คดีก็ขึ้นสู่กระบวนการทางศาล ซึ่งศาลจังหวัดสงขลานัดสืบพยานฝ่ายโจทก์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วันที่ 16 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา และยังไม่มีนัดอ่านคำพิพากษาแต่อย่างใด

ส่วนอีกคดีนั้นเป็นการบุกรุกโบราณสถานเขาแดงที่มีนายสมบัติ เหาตะวานิช คหบดี ในจังหวัดสงขลา เป็นจำเลยพร้อมผู้รับจ้างอีก 2 ราย ทั้งหมดให้การรับสารภาพ ศาลได้พิพากษาไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้ร่วมกันฟื้นฟูสภาพในจุดที่เสียหายให้กลับคืนเหมือนเดิมภายใต้ความเห็นชอบจากกรมศิลปากรภายในระยะเวลา 3 ปี

นายบรรจง นะแส เครือข่ายภาคประชาชนคัดค้านการบุกรุกโบราณสถานสงขลา กล่าวว่า หลังได้รับทราบคำพิพากษารู้สึกหายเหนื่อยและรู้ว่าขบวนการของกลุ่มผู้มีอำนาจ อิทธิพลไม่สามารถอยู่เหนือกระบวนการยุติธรรมได้เสมอไป และทำให้ยังมีความหวังต่อการสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในสังคมได้
สำหรับในคดีบุกรุกโบราณสถานเมืองสงขลาเก่า ในอำเภอสิงหนคร ทั้งโบราณสถานเขาแดงและโบราณสถานเขาน้อยนั้น ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกโบราณสถาน หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ได้ประโยชน์ ซึ่งโบราณสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนแล้ว, ร่วมกันซ่อมแซม แก้ไข เปลี่ยนแปลง รื้อถอน ต่อเติม ทำลาย เคลื่อนย้าย โบราณสถานหรือส่วนต่างๆ ของโบราณสถาน หรือขุดค้นสิ่งใดภายในบริเวณโบราณสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินของรัฐ หรือก่นสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐ, ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และร่วมกันทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต

Advertisement

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image