ช่างสัก ยันไม่เคยส่งข้อความเย้ย-มีอะไรเมียเพื่อน ซ้ำยังถูกหลอก ไปทำร้ายจนน่วม

ช่างสัก ยันไม่เคยส่งข้อความเย้ย-มีอะไรเมียเพื่อน ซ้ำยังถูกหลอก ไปทำร้ายจนน่วม

จากกรณี สาว 18 ปี ถูกแฟนเพื่อนบังคับให้เสพยาบ้า ก่อนจะทำร้าย เหตุโมโหหาว่าพาแฟนสาวตนไปมีอะไรกับช่างสักลาย โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนของวันที่ 28 เม.ย. ต่อเนื่องถึงเช้า 29 เม.ย.67 โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกำแพงเพชรแล้ว 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บรวมกว่า 4 รายนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยไปพบกับ น.ส.วี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ผู้เสียหาย โดย น.ส.วี ได้เปิดบริเวณบาดแผลตามร่างกายหลายจุดให้ดู ทั้งต้นแขนด้านซ้าย บริเวณปลายคางซ้าย บริเวณศีรษะเหนือหัวคิวด้านซ้าย และบริเวณหน้าอกซ้าย ที่ถูก นายเอ้ อายุ 40 ปี แฟนของเพื่อนรุ่นพี่ ใช้เท้าและตะหลิวตีจนได้รับบาดเจ็บ แถมยังขังไม่ให้กลับบ้าน แต่หนีออกมาได้และไปแจ้งความกับตำรวจ โดยเล่าให้ฟังว่า “ก่อนเกิดเหตุเพื่อนรุ่นพี่ (แฟนนายเอ้) ได้โทรตามให้ตนไปหาที่บ้านญาติ เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องที่ ‘ช่างสักลาย’ ทักแชตมาหานายเอ้ว่าไปมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งหลายครั้ง ได้กันหลายท่ากับแฟนตนเอง

Advertisement

น.ส.วี กล่าวต่อว่า ซึ่งตนยืนยันกับนายเอ้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง พอพูดจบตนก็ถูกนายเอ้เตะที่บริเวณใบหน้า และใช้ตะหลิวฟาดหลายครั้งตามร่างกาย ซึ่งนายเอ้ไม่เชื่อ ตอนที่ตนไปสักลายกับ น.ส.มด อายุ 20 ปี (แฟนนายเอ้) นั้น ก็ไม่มีอะไรเกินเลยกับช่างสักลายไปกว่าที่นายเอ้เข้าใจ หลังจากทำร้ายตนเสร็จก็บังคับให้ตนเสพยาบ้าไปครึ่งเม็ด หากไม่เสพตามที่สั่งก็จะทำร้ายอีก โดยปิดประตูรั้วบ้านไม่ให้ตนกลับบ้าน หากคิดหนีจะเอาคัตเตอร์กรีดหน้าคนละแผล โดยขณะนั้น “น.ส.มด” แฟนนายเอ้ ได้หลบหนีออกมาจากบ้านได้สำเร็จ เหลือเพียงตนเอง ซึ่งพอนายเอ้รู้ว่ามีคนแจ้งความก็พาตนไปแอบหลบอยู่บ้านหลังหนึ่งแถววัดสว่างอารมณ์ (ใกล้ๆ กันกับที่เกิดเหตุ) พอตอนเช้า นายเอ้ก็ปล่อยตนออกมาตอน 9 โมงเช้า ระหว่างนั้นนายเอ้ไม่ได้ทำอะไรตนแต่อย่างใด ซึ่งนายเอ้ก็ยังไม่เชื่อว่าตนพูดความจริงว่าไม่ได้พาแฟนของนายเอ้ไปมีอะไรกับช่างสักลาย

พ.ต.ท.นิกร ใบเนียม พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกำแพงเพชร และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปยังบ้านหลังเกิดเหตุ โดยพบว่า “นายเอ้” ได้หลบหนีไปแล้ว พบแต่เพียง “นางจันทร” อายุ 44 ปี ผู้เป็นอา โดยตำรวจได้มาเชิญตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก ซึ่งขณะเกิดเหตุได้อยู่ในเหตุการณ์ตลอด และก็พยายามห้ามนายเอ้ (หลานชาย) ว่าอย่าทำ โดยได้พาไปชี้จุดที่เกิดเหตุภายในใต้ถุนบ้านให้ดู พร้อมเล่าให้ฟังว่า เรื่องการกักขังนั้นไม่มีแน่นอน โดยหลานชายตนโมโหที่ “น.ส.มด และ น.ส.วี” หนีไปเที่ยว และไปหาช่างสักลาย แล้วไปเอากันและส่งรูปมาเย้ยหลานชายตนจนโมโห และลงมือทำร้ายทั้ง 2 ดังกล่าว แต่ตนก็ห้ามไว้ ส่วนภาพหรือแชตที่ไปนัดเอากันนั้น ตนไม่เห็นเพราะหลานชายทุบโทรศัพท์พังไปแล้ว โดยทั้งคู่ให้ข้อมูลนายเอ้ไม่ตรงกัน เป็นเหตุชนวนที่ต้องทำร้ายทั้งคู่จนบาดเจ็บ ขณะเดียวกัน “ช่างสักลาย” ก็ขับรถจักรยานยนต์มารอรับ “น.ส.มด” แต่ทันใดนั้นนายเอ้จึงนำมีดทำครัวออกไปฟันทำร้ายช่างสักลายหน้าบ้านและยื้อกระชากมีดจนถูกฟันทั้งคู่ ส่วน “น.ส.มด” หลานสะใภ้ พ่อแม่ก็รับไปแล้ว

Advertisement

 

ขณะที่ “น.ส.ครีโอพัตรา“ อายุ 44 ปี  เพื่อนบ้านที่ถูกนายเอ้กระทืบทำร้ายจนบาดเจ็บ โดยได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ศีรษะ และขา เพราะนายเอ้คิดว่าตนช่วย “น.ส.มด” หลบหนี โดยเข้ามาทำร้ายภายในบ้าน พร้อมเล่าว่า ตนเห็นว่าบ้านของอานายเอ้ถูกตัดน้ำประปาจึงให้ “น.ส.มด” มาอาบน้ำที่บ้านหลังถูกทำร้าย แต่ “น.ส.มด” ไม่ได้มาแต่กลับวิ่งหนีผ่านหน้าบ้านตนไป หลังจากนั้นนายเอ้ก็เข้ามาทำร้ายจนบาดเจ็บดังกล่าว หลังเกิดเหตุตนก็ไปแจ้งความกับตำรวจ ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องนี้เลย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ “นางอินทิรา“ อายุ 44 ปี (แม่ของ น.ส.มด) โดยได้เปิดแผลตามร่างกายที่นายเอ้ (ลูกเขย) ทำร้ายตอนเข้าไปช่วยลูกสาวให้ดู พร้อมเล่าว่า ตนได้เดินทางไปหาลูกสาว พบว่าลูกสาวนั่งร้องไห้จึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ลูกสาวตนไม่ตอบ คาดว่าจะถูกบังคับไม่ให้พูด ตนก็ได้พูดขึ้นว่ามีอะไรค่อยคุยกัน จากนั้นนายเอ้ก็ลงมือตบตีลูกสาวตนและหันมาตบหน้าตน พร้อมทั้งใช้เท้าถีบตนจนได้รับบาดเจ็บบริเวณแขน มีรอยฟกช้ำ

หลังจากนายเอ้ได้ทำร้ายร่างกายทั้งตนและลูกสาวตนก็ยังไม่ได้ไปไหน เนื่องจากว่าตนอยากจะนำตัวลูกสาวกลับ แต่นายเอ้ขู่บังคับยังไม่ให้กลับ ทำการปิดประตูรั้วบ้าน เมื่อตนได้สติในช่วงนายเอ้เผลอ จึงได้ออกมาจากบ้านหลังที่เกิดเหตุดังกล่าว และเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งตนยอมรับว่านายเอ้มีพฤติกรรมตบตีลูกสาวตนบ่อยครั้ง แต่ลูกสาวตนก็ไม่ได้บอกให้ตนทราบ โดยหลังจากเกิดเรื่องพ่อของน้องมดได้รับตัวน้องไปอยู่ที่บ้านที่ จ.ตาก โดยเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ส่วนประเด็นที่นายเอ้บอกว่าช่างสักลายมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกสาวตนนั้น ตนไม่เชื่อเด็ดขาด และลูกก็ได้บอกว่าไม่ได้มีอะไรกัน ที่นายเอ้พูดไปแบบนั้นน่าจะเกิดจากอาการหึงหวงลูกสาวตนมากกว่า เพราะที่ผ่านมานายเอ้ไม่ให้คุยกับใคร แม้กระทั่งเสียงเตือนข้อความดังก็ยังไม่ได้เลย โดนยืนยันว่าลูกสาวตนโดนนายเอ้ตบตีบ่อยมาก

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ “ช่างสักลาย” ชื่อนายป๊อต (นามสมมุติ) ในพื้นที่หมู่ 3 ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยได้นำมีดทำครัวที่นายเอ้ใช้ไล่ฟันตนเองจนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณชายโครงเหนือนมด้านซ้าย ขณะที่ตนไปรอรับ น.ส.มด ที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยแชตหลอกให้ตนไปรับยังบ้านหลังเกิดเหตุ โดยอ้างว่าทะเลาะกับแม่ให้มารับหน่อย ไม่คิดว่าจะมาเจอนายเอ้ที่เป็นเพื่อนกันวิ่งเข้ามาเอามีดมาฟันตนครั้งแรก โชคดีที่ตนใส่หมวกกันน็อกไม่งั้นก็ถูกฟันไปที่หัว หลังจากนั้นก็ฉุดกระชากมีดกันจนตนถูกฟันที่ชายโครงเหนือนมด้านซ้าย โดยยืนยันว่าไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ “น.ส.มด” ตามที่นายเอ้กล่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็มีลูกค้าสักอยู่หลายครั้ง

นายป๊อต (นามสมมุติ) ช่างสักลาย เล่าว่า ตนยอมรับว่า น.ส.มด เคยมาสักลายที่นี่จริงๆ 2-3 ครั้งแล้ว และได้ส่งข้อความมาหาตนว่าทะเลาะกับผู้เป็นแม่และน้องยังได้บอกว่าตอนนี้อยู่บ้านคุณตาให้ตนไปรับหน่อยได้ไหม หนูไม่มีที่ไป ตนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกสงสาร โดยน้องมดแจ้งว่าอยู่บ้านตำบลนครชุม ซึ่งตนก็ไม่รู้จักบ้าน แต่ก็ได้ขับรถไปวนหาจนเจอ และได้พูดกับน้องว่าทำไมไม่ไป น้องบอกว่าจะรอน้องอีกคนหนึ่ง ซึ่งสักครู่นายเอ้ได้ถือมีดทำครัววิ่งออกมาฟันตน บริเวณลำตัวมีบาดแผลยาวประมาณเกือบ 1 ฟุต โดยยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกันเลย ซึ่งตนเองรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้เกิดการยื้อแย่งอาวุธมีดกันขึ้น

ตนยอมรับว่าเอ้กับตนรู้จักกันมากว่า 20 ปี ถือว่าเป็นเพื่อนกันก็ว่าได้ สำหรับเรื่องการส่งข้อความ หรือภาพไปเยาะเย้ยนายเอ้ว่าตนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ น.ส.มด ซึ่งเป็นแฟนนายของนายเอ้นั้นก็ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยส่งข้อความลักษณะเช่นนี้ไป เรื่องนี้ตนยืนยันและให้ตรวจสอบได้ ซึ่งทุกครั้งเขาก็จะมากับเพื่อนรุ่นน้องเขาโดยตลอด และจะอยู่ด้วยกันตลอด

สำหรับการส่งข้อความนั้นไม่มีอย่างแน่นอน ถ้าจะมีการส่งข้อความก็คือมีการพูดคุยแบบปกติ ไม่มีข้อความเยาะเย้ยใดๆ และอีกอย่างตนก็ไม่ทราบด้วยซ้ำไปว่า น.ส.มด เป็นแฟนกับนายเอ้ หากตนรู้จะไม่ยุ่งอยู่แล้ว ใครจะไปยุ่งกับแฟนเพื่อน ซึ่งที่ผ่านมาทราบว่าน้องเขาเพิ่งเลิกกับแฟนเก่าเขาไป ซึ่งตนเหมือนกับถูกหลอกให้เดินทางไปหาจนถูกฟัน ส่วนตัวตนจะยังไม่แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกรณีที่ถูกทำร้าย เพราะเห็นว่าตนกับนายเอ้เป็นเพื่อนกัน และขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ น.ส.มด ตามที่นายเอ้ได้กล่าวอ้าง และเหตุที่เกิดคาดว่านายเอ้คงจะอยู่ในอาการมึนเมายาเสพติดก็ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image