โคราชภัยแล้งรุนแรง ชาวนาต้องปล่อยข้าวนาปรังยืนต้นตายยกแปลง หลังไม่มีน้ำสูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าว
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพแปลงปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่หมู่ 3 ตำบลท่าหลวง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอย่างหนัก โดยต้นข้าวที่ตั้งท้องออกรวงต้องยืนต้นแห้งตาย เพราะไม่มีน้ำมาหล่อเลี้ยง เกษตรกรต้องจำยอมปล่อยให้ข้าวนาปรังที่ปลูกไว้ให้แห้งตายยกแปลง
จากการสอบถาม นายอำนวย เพิ่มพูน เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังในพื้นที่ เปิดเผยว่า ตนต้องปล่อยให้ข้าวนาปรังยืนต้นตายเพราะประสบปัญหาภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ ไม่มีแหล่งน้ำให้สูบมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้อีกต่อไป ซึ่งขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองธรรมชาติและในลำน้ำเค็ม ลดระดับต่ำลงจนไม่สามารถสูบน้ำมาใช้เพื่อการเกษตรได้
ในขณะที่น้ำซึมจากผิวดินและน้ำบาดาลโดยรอบพื้นที่ จะเป็นน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินเกลือ จึงเป็นน้ำกร่อยมีความเค็มสูง ถ้าสูบมาใส่แปลงข้าวนอกจากต้นข้าวจะไม่เจริญเติบโตแล้ว ยังทำให้ผิวดินในแปลงนาได้รับความเค็มมากเกินไป จนไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้อีกเลย ชาวนาหลายรายจึงไม่มีทางเลือก จำใจปล่อยให้ต้นข้าวแห้งตาย ทั้งๆ ที่เป็นช่วงที่ข้าวเริ่มตั้งท้องออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวแล้ว
ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมักจะได้รับผลกระทบกับปัญหาน้ำท่วมแปลงนาในช่วงฤดูน้ำหลากอยู่เป็นประจำ จนพืชผลได้รับความเสียหาย ต้องปรับเปลี่ยนมาปลูกข้าวนาปรังแทน เพื่อหลีกหนีผลกระทบในฤดูน้ำหลาก แต่ก็มาได้รับผลกระทบขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งอีก ยิ่งปีนี้ภัยแล้งมาเร็วและรุนแรงมาก อีกทั้งสภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่อง แหล่งน้ำต่างๆ ลดระดับลงรวดเร็ว บางแห่งถึงขั้นแห้งขอด ไม่มีน้ำให้เกษตรกรได้ทำนา จึงต้องปล่อยข้าวยืนต้นแห้งตายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เกษตรกรในพื้นที่ที่ปลูกข้าวทำนาปรัง ต่างได้รับความเดือดร้อน ขาดทุนกันอย่างหนัก อาจถึงขั้นต้องกู้หนี้ยืมสินไปซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวมาเตรียมไว้เพาะปลูกในฤดูเพาะปลูกถัดไป
