ชาวบ้านไม่เห็นพระมาฉันข้าว 2 วัน ไปเรียกหาในกุฏิพบนอนเป็นศพ ส่งกลิ่นแล้ว ชี้มีโรคประจำตัวต้องกินยาทางประสาทประกอบกับอากาศร้อน
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ร.ต.ท.พีรวิขญ์ จันทจร ร้อยเวร สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งจาก นายสังวาลย์ ผู้ใหญ่บ้านหนองสวรรค์ ต.หนองสวรรค์ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู เมื่อเวลา 11.00 น. ว่าที่วัดป่าหนองสวรรค์มีพระภิกษุสงฆ์มรณภาพอยู่ภายในกุฏิ ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบด้วย จากนั้นจึงแจ้งแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองบัวลำภูทราบ และได้เดินทางมาตรวจสอบที่วัดป่าหนองสวรรค์ ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านหนองสวรรค์
เมื่อไปถึงพบร่าง พระนพรัตน์ (สุเมโธ) อายุ 50 ปี ชาว ต.หนองสวรรค์ อ.เมืองหนองบัวลำภู บวชมาแล้วประมาณ 10 ปี มรณภาพอยู่ในกุฏิในสภาพขึ้นอืดส่งกลิ่น เจ้าหน้าที่ต้องจุดธูปควันดับกลิ่นก่อนเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย หรือต่อสู้กัน แต่เนื่องจากสภาพศพขึ้นอืด ประกอบกับอากาศร้อน คาดว่าพระนพรัตน์มรณภาพมา 2-3 วันแล้ว ตอนนี้ชาวบ้านต้องรอว่าญาติจะนำร่างไปบำเพ็ญกุศลที่ไหน
นายสังวาลย์เล่าว่า ชาวบ้านที่มาวัดไม่เห็นพระรูปดังกล่าวออกมาฉันภัตตาหาร 2 วันแล้ว พอดีวันนี้ใกล้เวลาจะถึงช่วงเวลาเพล จึงไปตามมาฉันอาหาร เวลา 10.45 น.ไปเคาะประตูเรียก แต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ และชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นจึงไปแง้มหน้าต่างดูจึงเห็นว่าพระนพรัตน์มรณภาพแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
นายสังวาลย์กล่าวต่อว่า ปกติพระนพรัตน์มักจะอยู่รูปเดียว ไม่ค่อยสุงสิงกับคนอื่น และมีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาทางจิตประสาทอยู่ด้วย ไม่เห็นลงมาฉันอาหารได้ 2 วันแล้ว อาจเป็นอาการของโรคประจำตัว ประกอบกับกุฏิหลังคาต่ำ อากาศร้อน อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตก็ได้
นายสังวาลย์กล่าวว่า ส่วนเรื่องศพต้องรอญาติพี่น้องที่เป็นพี่ชายซึ่งเป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่วังน้ำเย็น จ.ปราจีนบุรี และอีกคนเป็นทหาร ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เดินทางมาถึงก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะแม่ของพระก็ป่วยอยู่โรงพยาบาล ซึ่งกุฏิที่พระนพรัตน์มรณภาพ ก่อนหน้านี้หลายปีก็มีพระสงฆ์มรณภาพที่กุฏิหลังนี้ รู้สึกว่าจะไม่ดีแล้ว คงไม่มีใครกล้ามาอยู่ คิดว่าหลังเสร็จอะไรแล้วจะรื้อทิ้งไปเลย
