ชาวไทย-เขมร แห่ร่วมงานปลุกเสก เหรียญหลวงปู่เฮงแน่นวัดบ้านด่านช่องจอม

ชาวไทย-เขมร แห่ร่วมงานปลุกเสก เหรียญหลวงปู่เฮงแน่นวัดบ้านด่านช่องจอม ฮือฮาเจ้าภาพ นำเหล็กไหลขนาดใหญ่จากกัมพูชาร่วมพิธีด้วย

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่วัดพัฒนาธรรมาราม หรือวัดบ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ”เหรียญเจริญพร สมปรารถนา (เต็มองค์) หลวงปู่เฮง ปภาโส วัดบ้านด่านช่องจอม” จัดขึ้นโดยนายราเชนทร์ ธนาภรณ์นววิช อายุ 61 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ร่วมสร้างพระพุทธรูปหินทราย พระประจำวันเกิด ประดิษฐาน ณ วิหารพระพุทธยาสน์ วัดบ้านด่านช่องจอม โดยในช่วงเช้าได้มีพิธีพราหมณ์บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนจะประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ”เหรียญเจริญพร สมปรารถนา (เต็มองค์) หลวงปู่เฮง ปภาโส วัดบ้านด่านช่องอจม” ในช่วงบ่าย

โดยมี พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมกับ พ.ต.อ.วรายุส์ จันทร์เยี่ยม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ , พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ และ ผู้กำกับการสถานีตำรวจจาก สภ.ต่างๆในพื้นที่อำเภอชายแดน รวมทั้ง จนท.ตำรวจในพื้นที่เข้าร่วมพิธีดังกล่าว

Advertisement

ขณะที่พระราชวิมลโมลี เจ้าคุณศรี ปิยสีโร เจ้าคณะ จ.สุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมกับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดบ้านด่านช่องจอม นำพระเกจิคณาจารย์อีกกว่า 20 รูป โดยในจำนวนนี้มีพระเกจิคณาจารย์จากประเทศกัมพูชามาร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิต ประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ”เหรียญเจริญพร สมปรารถนา (เต็มองค์) หลวงปู่เฮง ปภาโส วัดบ้านด่านช่องอจม” ดังกล่าวอย่างเข้มขลัง สำหรับวัตถุมงคล”เหรียญเจริญพร สมปรารถนา (เต็มองค์) หลวงปู่เฮง ปภาโส วัดบ้านด่านช่องจอม” มีหลากหลายเนื้อเหรียญให้บูชา ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-593-6679,0625726696 และ 062-572-6951

ทั้งนี้ในพิธีดังกล่าว พบว่ามีข้าราชการและประชาชนต่างนำวัตถุมงคลของตนเองมาจากบ้าน เพื่อนำมาเข้าร่วมพิธีดังกล่าวจำนวนมากอีกด้วย ในจำนวนนี้พบว่ามีเหล็กไหลขนาดใหญ่ มีความกว้างยาวประมาณ 35-40 ซ.ม.ที่เจ้าของทราบชื่อคือนายราเชนทร์ ธนาภรณ์นววิช ผู้จัดสร้างวัตถุมงคลนั่นเอง นำมาร่วมในพิธี ซึ่งเจ้าของเหล็กไหลบอกว่า ได้มาจากพระธุดงค์จากประเทศกัมพูชามานานนับสิบปีแล้ว หลังจากได้ครอบครอง ตนเองก็ทำมาค้าขึ้นมาโดยตลอด จนมีโอกาสได้มาเป็นผู้จัดสร้างพระ สร้างบุญ ร่วมกุศลในครั้งนี้ ซึ่งคนที่ได้ครอบครองเหล็กไหล มีความเชื่อกันว่า สามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้ ถ้าใครมีบูชาติดตัวจะทำให้มีโชคลาภ ฟันแทงไม่เข้า เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่หายาก หากใครไม่มีบุญบารมีจริงๆ เมื่อครอบครองแล้วจะไม่เกิดโชคลาภต่างๆ และยังบอกอีกว่า หากใครต้องการเสี่ยงทายว่าธุรกิจการงานใด จะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็สามารถอธิษฐานขอพรเสี่ยงทายกับก้อนเหล็กไหลนี้ได้ โดยให้อธิษฐานครั้งแรกว่า หากตนเองจะทำอะไรอย่างไร สำเร็จ ก็ขอให้ยกก้อนเหล็กไหลขึ้น และครั้งที่ 2 ก็อธิษฐานเรื่องเดียวกัน และบอกว่า หากสิ่งที่จะทำสำเร็จ ก็ขอให้ยกไม่ขึ้น นายราเชนทร์ ธนาภรณ์นววิช กล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ก็พบว่ามีประชาชนที่ไปร่วมงานต่างสนใจร่วมอธิษฐานเสี่ยงทายยกก้อนเหล็กไหลดูกันจำนวนมาก บางคนก็สมหวัง บางคนก็ผิดหวัง แต่ก็เป็นที่ฮือฮาและก็สร้างความแปลกใจกับผู้ที่ทดลองยกก้อนเหล็กไหล ว่า ก้อนเหล็กไหลก้อนเดียวกัน คนยกคนเดียวกัน แต่ทำไมถึงยกขึ้นบ้างไม่ขึ้นบ้าง ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีมหาพุทธาภิเษกดังกล่าว ผู้จัดสร้างได้แจกเหรียญที่ระลึกรุ่นดังกล่าว จำนวน 1,500 เหรียญให้กับประชาชน พุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชาที่มารอรับเหรียญด้วยความศรัทธาเป็นจำนวนมาก

สำหรับหลวงปู่เฮง ปภาโส เจ้าอาวาสวัดพัฒนาธรรมารามหรือวัดบ้านด่านช่องจอม สิริอายุ 97 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภของแดนดินถิ่นอีสานใต้ วัดตั้งอยู่ที่ บ้านด่านช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลวงปู่เฮงฯเกิดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2470 ปีเถาะ พ่อแม่เป็นชาวกัมพูชา แต่ได้อพยพมาอยู่ประเทศไทยในสมัยที่ฝรั่งเศสปกครอง โดยย้ายมาอยู่หมู่บ้านปราสาท ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ประกอบอาชีพทำนาทำสวน มีพี่น้องด้วยกัน 13 คน เป็นบุตรคนที่ 7 ที่หมู่บ้านปราสาท ในวัยเด็กอายุประมาณ 13-14 ปี พระอาจารย์เฉิด ธัมมกโร ลูกพี่ลูกน้องของหลวงปู่เฮง เดินทางธุดงค์มาจากประเทศกัมพูชา เข้ามาเยี่ยมญาติ พี่น้องที่ประเทศไทย บอกจะเดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ก่อนที่จะไปได้ขอกับแม่ของท่าน โดยขอให้น้องไปด้วย และจะได้สอนให้ได้หัดเรียนเขียนอ่านหนังสือทำให้ได้ศึกษาอักษรขอมศาสตร์วิชาแขนงต่างๆ ตั้งแต่บัดนั้น ศึกษากับพระอาจารย์เฉิด พระพี่ชายและออกธุดงค์ไปด้วยเสมอ

จนอายุ 15 ปี ได้กลับมาบ้านและบวชเรียนเป็นเณร เรียนภาษาไทย ขอม และภาษาบาลี เพิ่มเติม สอบได้นักธรรมโท ครั้นอายุ 21 ปี ไปเป็นทหารที่กรมทหารม้า จ.ลพบุรี เลี้ยงม้าขี่ม้าอยู่ 3 ปี หลังปลดประจำการก็ท่องเที่ยวไปเรื่อย ช่วงชีวิตหนึ่งของท่านท่องเที่ยวไปทั่ว และไปอยู่ประเทศกัมพูชา จนกระทั่ง พ.ศ.2495 ได้ย้ายไปอยู่ จ.จันทบุรี มีโอกาสพบกับหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จึงตัดสินใจบวช หลวงพ่อคงได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม เขียนผงลบผง สักยันต์ และคาถาต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะคาถาคงกระพันชาตรี ย่นระยะทาง มุ่งศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อคงไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน และเข้าร่วมปลุกเสกด้วย

พ.ศ.2532 หลวงพ่อคงมรณภาพ จึงได้รับการแต่งตั้งเป็น เจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสแทน แต่อยู่ได้เพียง 6 พรรษา ก็ขอลาออกและธุดงค์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งกลับมาบ้านเกิดอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านด่านช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จนถึงปัจจุบัน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวอีสานใต้และชาวกัมพูชาแถบชายแดน ให้ความเลื่อมใสศรัทธา ด้วยเป็นพระที่เปี่ยมด้วยเมตตาธรรมยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย อีกทั้งเมื่อท่านรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ

ส่วนกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้อง เดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้จะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถทัดทานได้ ด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัวเกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสุรินทร์และแดนดินถิ่นใต้อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image