สิ้นแล้วหนุ่ม 28 ไลฟ์ขับเก๋งพาลูกขวบเศษดิ่งแม่น้ำตรัง แม่โพสต์เศร้า ลูกสมองตาย โอกาสรอด 10%

สุดยื้อ! สิ้นแล้วหนุ่ม 28 ไลฟ์ขับเก๋งพาลูกวัยขวบเศษดิ่งแม่น้ำตรัง แม่โพสต์เศร้าลูกสมองตาย ปาฏิหาริย์เหลือแค่ 10% สองตาหลานเล่านาทีช่วยระทึก

จากกรณีคุณพ่อวัย 28 ซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ได้ไลฟ์สดขณะขับรถไปจอดริมแม่น้ำตรัง โดยในรถมีลูกสาววัย 1 ขวบ 7 เดือนอยู่ด้วย เจ้าตัวได้ตัดพ้อชีวิตรวมถึงปัญหาการเงิน ก่อนขับรถลงแม่น้ำเพื่อดับชีวิต ต่อมามีพลเมืองดีเข้าไปช่วยนำส่งโรงพยาบาล ปรากฏว่าอาการสาหัสทั้งคู่จากการสำลักน้ำและขาดอากาศหายใจจนหมดสติอยู่ภายในรถ เหตุเกิดเมื่อวานนั้น

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ล่าสุดทางทีมแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตของนายกวีวัฒน์ (สงวนนามสกุล) คุณพ่อวัย 28 ไว้ได้ โดยเสียชีวิตเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ส่วนลูกสาวยังมีอาการโคม่า อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

Advertisement

ขณะที่เฟซบุ๊กของ น.ส.ลภัสรดา (สงวนนามสกุล) ผู้เป็นแม่ของลูกสาว ได้โพสต์อัพเดตอาการของลูกสาวเป็นระยะ อาทิ โอกาสแทบไม่มีแล้วแค่ 10% ที่มีชีวิตรอดแล้วอยู่แบบเจ้าหญิงนิทรา จับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วชีวิต ต้องไปทางไหนก่อน, ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง น้องสมองตายค่ะ สมองไม่ทำงานแล้ว, ใครที่ติดตามอาการน้องดูโพสต์นะคะ แม่ตอบแชตทีละคนไม่ไหวค่ะ ตอนนี้น้องอาการโคม่าแบบนิ่งๆ แต่ไม่มีถ่ายเลือดแล้ว ยังคงให้ยาต่อเนื่องเพื่อรักษาอาการให้คงที่ และยังใช้ท่อช่วยหายใจ เป็นต้น ทั้งนี้ ท่ามกลางเพื่อน ญาติ คนสนิท รวมถึงชาวเน็ตเข้ามาให้กำลังใจ

คุณตาพลเมืองดี

ด้านนายอำพัน ศรีสุวรรณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ตำบลย่านซื่อ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง พร้อมด้วย ด.ช.ณัฐพล ศรีสุวรรณ อายุ 12 ปี สองตาหลานผู้เป็นพลเมืองดีที่รีบกระโดดน้ำลงไปช่วยเหลือ โดยได้ดำน้ำมุดลงไปทุบกระจกรถ แต่ทุบไม่แตก จึงใช้เชือกมัดรถไว้ ก่อนนำไปผูกกับรถไถและรีบลากขึ้นมาจากน้ำ จนสามารถนำทั้ง 2 คนขึ้นมาได้

Advertisement

โดยนายอำพันเปิดเผยว่า อยู่บ้านห่างจุดเกิดเหตุ 300 เมตร มีผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านอีกคนหนึ่งโทรไปบอกว่าให้มาดูหน่อย มีรถตกน้ำ ตนรีบหยิบค้อนวิ่งมายืมรถของคนข้างบ้าน ขับออกไปที่เกิดเหตุ มาถึงยังเห็นฟองอากาศลอยขึ้นมาจากน้ำจึงตัดสินใจกระโดดน้ำดำลงไปดูข้างล่างพร้อมหลานชาย

ตนบอกหลานชายว่า อย่าลงไป อันตราย แต่หลานชายบอกว่าจะลงไปช่วยตา จากนั้นตนได้นำค้อนที่ถือมาด้วยไปทุบกระจก แต่ทุบไม่แตก จึงขึ้นมาจากน้ำ แล้วกลับไปเอาเชือกที่บ้าน ขณะตนกลับไปเอาเชือกมีชาวบ้านมาช่วยกันมามุงดู ตนรีบนำเชือกลงไปผูกกับรถบริเวณสปอยเลอร์ท้ายรถ แต่เมื่อชาวบ้านช่วยกันดึงก็ทำให้สปอยเลอร์หลุดออกมา ตนจึงดำลงไปใหม่แล้วผูกกับล้อรถ ชาวบ้านก็ช่วยกันดึงขึ้นมา แต่ไม่ขึ้นเพราะแรงไม่พอ โชคดีที่เจ้าของร้านอาหารฝั่งตรงข้ามได้กลับไปเอารถไถที่ร้านมาช่วยดึงขึ้นมาสำเร็จ เมื่อดึงขึ้นมาแล้วก็ช่วยกันทุบกระจก ตนก็ทุบกระจกจนบาดนิ้วมือแล้วรีบนำคนที่อยู่ในรถออกมาช่วยทำ CPR ช่วยชีวิต ก่อนที่รถพยาบาลจะนำส่งโรงพยาบาล

นายอำพันกล่าวว่า ช่วงนั้นน้ำลึกที่ประมาณ 5 เมตร สภาพหัวรถปักอยู่ใต้แม่น้ำ ด้านท้ายชี้ขึ้นมาผิวน้ำ ตนดำแบบตัวเปล่า แต่มีหน้ากากดำน้ำ ใช้เวลาดำน้ำแต่ละครั้งประมาณ 2 นาที ขึ้นมาได้ประมาณ 10 กว่านาที ความรู้สึกแรกที่ลงไปช่วยไม่ได้คิดอะไร แค่อยากช่วยชีวิตให้ได้รับความปลอดภัยให้ได้ ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากที่ไหนก็แล้วแต่

ด้าน ด.ช.ณัฐพล ศรีสุวรรณ หลานชาย บอกว่า ตนช่วยดึงเชือกและช่วยดำน้ำลงไปดูรถกับคุณตา ตอนนั้นไม่รู้สึกกลัว คุณตาก็พยายามห้ามว่าอย่าลงไป แต่ตนบอกว่าอยากจะลงไปช่วยตา เพราะหากตาเป็นอะไรตนจะได้ช่วยตาได้ ส่วนในการดำน้ำ ตนดำได้เพราะคุณตาสอนให้ดำน้ำหากุ้งหาปลาในแม่น้ำตรังอยู่แล้ว และวิชาที่ได้เรียนก็ได้กลับมาช่วยชีวิตคน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่ม 28 ป่วยซึมเศร้า ไลฟ์พาลูกสาวตัวน้อย ขับเก๋งลงแม่น้ำตรัง มีคนช่วยทัน แต่อาการสาหัส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image