สาวเมาแล้วขับ ปีนฟุตปาธชนฟอร์จูนเนอร์ล้อหลุดกระเด็น ไม่สลดเข้ากระชากคอเสื้อ-ด่าตร.สารพัด ก่อนถูกยัดเข้าห้องขัง
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด ได้รับแจ้งความจาก นางอรสุรัชย์ อายุ 52 ปี (ผู้เสียหาย) ว่ามีหญิงเมาขับรถกินเลนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุรถเกือบชนอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ
พบว่ามีรถฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์เงิน อยู่บนฟุตปาธ ล้อข้างขวาที่หลุดกระเด็นออกมา (รถผู้เสียหาย) และรถ
Haval สีบรอนซ์เงิน (รถผู้ก่อเหตุ) ในระหว่างนั้น นางอรสุรัชย์ อายุ 52 ปี (ผู้เสียหาย) ยืนหลบหญิงเมารายดังกล่าวทราบชื่อว่า น.ส.พิชญ์ชาดา อายุ 36 ปี (ผู้ก่อเหตุ) ที่อยู่ในอาการมึนเมากำลังอาละวาดด่าทอ และพยายามเข้ามาทำร้ายร่างกายนางอรสุรัชย์
ตำรวจจึงรีบเข้าไประงับเหตุและนำตัว น.ส.พิชญ์ชาดา มาที่ สภ.ปากเกร็ด แต่ น.ส.พิชญ์ชาดาก็ยังไม่หยุดด่าทอและได้มีการทำร้ายร่างกายตำรวจด้วยการกระชากคอเสื้อ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้เป่าแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็ได้มีอาการขัดขืนเล็กน้อย เป่าออกมาแล้วมีแอลกอฮอล์เกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนดคือ 102 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ร้อยเวรช่วยกันควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปขังได้พยายามกระโดดถีบผู้เสียหายดีที่เข้าห้ามทัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา น.ส.พิชญ์ชาดา ผู้ก่อเหตุ ในข้อหาเมาสุราอาละวาด
ผู้เสียหายกล่าวด้วยความตกใจกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ออกจากบ้านบุญโต 99 ตนก็ขับรถไปปกติพอถึงหน้าหมู่บ้าน ตนขับผ่านหน้าหมู่บ้านมานิดเดียวเท่านั้น ก็โดนรถผู้ก่อเหตุที่ขับสวนมาอีกเลน เบี่ยงรถมาใส่รถตน ตนเห็นจึงรีบเบี่ยงรถหลบไปขึ้นฟุตปาธ
พอ รปภ.เห็นตนเขาก็รีบวิ่งมาดูตนกลัวตนเป็นอะไร และได้บอกให้ตนใจเย็นๆ เพราะว่ารถผู้ก่อเหตุ ขับรถกินเลนมาครึ่งหนึ่งแล้ว จะให้ตนไปหลบตรงไหนถ้าไม่เบี่ยงหนีขึ้นฟุตปาธ เพราะมันเป็นถนนเลนเดียวขับสวนกัน ฝั่งรถผู้ก่อเหตุก็ขับมาเต็มที่เลย
ดูสภาพฝั่งนั้นสิตนก็ไม่อยากจะพูด ตนไม่เคยเป็นแบบนี้ ตนใจเสียมากที่เจอคนเมาแล้วมาขับรถแบบนี้ เพราะตอนเช้าตนจะออกไปซื้อกับข้าวให้ลูก ซึ่งลูกตนเป็นหมออยู่ศิริราช ตนเสียใจมากไม่ใช่เสียใจที่บาดเจ็บหรืออะไร ตนเสียใจที่ตนสร้างบุญสร้างกุศลมาทำไมถึงให้ตนเจอแบบนี้ ตนก็ช่วยคนมาเยอะ เพราะตนเป็นคนชอบช่วยคน ไม่เคยเอาเปรียบใคร คนยากคนจนตนก็ช่วย
ตนไม่เคยเกิดเหตุรถจะมาชนเลย รถผู้ก่อเหตุขับมาก็แรงแล้วยังมาหาเรื่องตนอีก ซึ่งหาเรื่องตนตั้งแต่ที่เกิดเหตุแต่ตนหลบออกมาตลอดเพราะไม่อยากต่อปากต่อคำให้มีเรื่องกับคนเมา เขาได้ต่อว่าตนว่า ตนขับรถจะไปชนเขา จะมาทุบตีตน ตนก็กลัว แต่แฟนของผู้ก่อเหตุเป็นคนที่ดีมากๆ คอยห้ามไม่ให้มาหาเรื่องตน
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาเมาสุราอาละวาดหรือเมาอย่างอื่น และควบคุมตัว น.ส.พิชญ์ชาดา ผู้ก่อเหตุ ไปขังไว้ก่อน
