สุดทน! เตรียมร้องนายกฯ แก้ราคาปาล์มดิ่ง เหลือกก.ละ 3 บาทเศษอ้างล้นโรงงาน

สุดทน! เตรียมร้องนายกฯ แก้ราคาปาล์มดิ่ง เหลือกก.ละ 3 บาทเศษ โรงงานอ้างปาล์มล้น-ซ่อมเครื่องจักร แฉ รับซื้อลูกร่วงผิดธรรมชาติทุกพื้นที่ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย หวั่นกลไกราคาบิดเบือนถึงอนาคต

ตรัง-เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม คณะกรรมการสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง นำโดยนายชัยวัฒน์ โภคาวัฒนา นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง นัดกรรมการสมาคมหารือด่วนกรณีปัญหาปาล์มราคาตกต่ำ โดยขณะนี้เกษตรกรขายได้จริงในราคากิโลกรัมละ 3.70-4.00 บาทเท่านั้น โดยโรงงานรับซื้อในราคาต่ำอ้างมาจาก 2 ปัจจัย คือ 1.ปาล์มล้นโรงงานนับตั้งแต่กลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา รวมทั้งมีการแจ้งรอซ่อมเครื่องจักรโรงงานบ่อยครั้ง โดยรถบรรทุกปาล์มน้ำมันทลายที่ไปจากลานเทต่างๆ จำนวนมากต้องไปจอดรอคิวเทภายในโรงงานจำนวนมาก ติดคิวครั้งละ 2-3 วัน ทำให้ขาดทุนเนื่องจากรอคิวนาน น้ำหนักปาล์มจะหาย จึงส่งผลให้ขณะนี้ลานเทจำนวนมากหยุดรับซื้อ ซึ่งเดิมปาล์มล้นเฉพาะโรงงานในจังหวัดตรัง และจังหวัดกระบี่เท่านั้น แต่ขณะนี้โรงงานสกัดในพื้นที่จังหวัดสตูลก็ล้นโรงงานเช่นเดียวกัน โดยเกษตรกรและลานเทมองว่าผลผลิตล้นโรงงานดังกล่าวเป็นข้ออ้างทำให้โรงงานกดราคารับซื้อ

และ 2.มีลานเทเกิดขึ้นจำนวนมาก บางส่วนรับซื้อแยกลูกร่วงกับปาล์มทลายให้ราคาต่างกัน และลานเทบางส่วนเปิดรับซื้อเฉพาะลูกร่วงเท่านั้น ซึ่งลูกร่วงบางส่วนไม่ได้ร่วงโดยธรรมชาติ  แต่เกิดจากการใช้เครื่องมือกระแทกให้ร่วง ซึ่งผิดกฎหมาย โดยให้ราคาลูกร่วงสูงถึงกิโลกรัมละ 7-8 บาท และต่อมาทำให้โรงงานสกัดใหญ่ๆ บางโรงก็แย่งรับซื้อลูกร่วงตามมาด้วย ทำให้เป็นข้ออ้างว่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันต่ำเหลือ 14% จาก 18% จึงอาจมีการกดราคารับซื้อจากเกษตรกรลงต่อเนื่อง โดยขณะนี้โรงงานรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 4.10-4.20 บาท

Advertisement

ขณะที่เกษตรกรขายได้จริง กิโลกรัมละ 3.70-4.00 บาท แต่ข้อเท็จจริงเกษตรกรพัฒนาคุณภาพผลผลิตได้ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 20% แล้ว และเกษตรกรไม่กล้าตัดผลไม่สุก เพราะจะถูกลานเทและโรงงานสกัดคัดผลไม่สุกออก จึงตัดเฉพาะผลสุกเท่านั้น ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยดังกล่าวเป็นข้ออ้างกดราคาเกษตรกร และแนวโน้มจะลดลงต่ำลงไปอีกอาจถึงกิโลกรัมละ 2 บาท ทำให้เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากภาครัฐไม่กำกับดูแลปล่อยให้มีการแยกลูกร่วงขายอย่างอิสระแม้จะผิดกฎหมายก็ตาม และโรงงานที่ฉวยโอกาสกดราคา บิดเบือนราคาตลาด

ทั้งนี้ เครือข่ายเตรียมเคลื่อนไหวเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเรียกร้องเร่งแก้ปัญหาโดยด่วนเร็วๆ นี้ โดยเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายบังคับใช้ห้ามรับซื้อลูกร่วงผิดธรรมชาติ และแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำในเชิงโครงสร้างทั้งระบบ

Advertisement

โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ภาคใต้ เกษตรกรได้ขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยางพาราที่ตัดสินใจโค่นต้นยางหนีราคายางตกต่ำ แล้วหันมาปลูกปาล์มน้ำมันแทนเป็นจำนวนมาก ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันเข้าสู่ระบบเป็นจำนวนมาก หากกลไกราคาปาล์มน้ำมันผันผวน หรืออาจถูกบิดเบือนเช่นนี้ ต่อไปในอนาคต จะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรจำนวนมากหลายล้านราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image