เปิดสาเหตุ ฝรั่งปลิดชีพเพื่อน ทนายเผย เกิดเรื่องก่อนตม.นัดสอบปมข่มขู่รีดไถ แค่วันเดียว

บึงกาฬคืบ ฝรั่งฆ่าเพื่อนร่วมชาติ พบถูกข่มขู่คุกคาม ล่าสุดรีดไถเงิน 8 แสน

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีนายสตีฟ มิลเซลโจเอล นามสกุล โรชินญง (Mr.Steve Rossgnon) อายุ 42 ปี อาศัยอยู่ใน หมู่ 9 ต.ซาง อ.เชกา จ.บึงกาฬ ฆ่า นายคริสโตปฟ์ Mr.Christophe Hercot อายุ 49 ปี สัญชาติเบลเยียมด้วยกัน อ้างถูกรีดไถเงิน ประกอบกับขู่จะทำร้าย จนทนไม่ไหวทะเลาะวิวาทก่อนจะชักปืน .22 ยิงเข้าไปชายโครง 3 นัดนำศพไปเผาอำพราง หลังบ้านราว 50 เมตร แล้วนำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟไอ สีดำแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขึ้นรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ Ford รุ่น Ranger สีส้ม ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ขับนำรถจักรยายนต์จะไปทิ้งลงคลองน้ำ บริเวณริมถนน สาย 212 บ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 9 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม แต่ขณะนั้นมีตำรวจชุดสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนภาค 4 กำลังดักซุ่มจับขบวนการขนยาเสพติดอยู่ พบพิรุธจึงเข้าไปสอบถาม ทำให้นายสตีฟ มิลเซล ตกใจขับรถหลบหนี ไปทาง อ.นาทม จ.นครพนม จึงถูกสกัดจับไว้ได้ และรับว่าพึ่งก่อเหตุฆ่าเพื่อนชาวต่างชาติด้วยกัน

ล่าสุด เช้าวันนี้ (26 พ.ค.) ญาติของนายคริสโตปฟ์ Mr.Christophe Hercot อายุ 49 ปี สัญชาติเบลเยียม เดินทางขึ้นโรงพัก สภ.เซกา ขอดูเถ่ากระดูกของผู้ตาย โดยไม่ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ขณะที่ ร้อยเวรเจ้าของคดี ตอนนี้ยังรอทีมทนายความของผู้ต้องหาเพื่อรอสอบสวนคดีไปพร้อมกัน โดยช่วงสายภรรยาของนายสตีฟ ได้เดินทางมาที่ สภ.เซกา พร้อมทนายความ จากนั้นร้อยเวรได้นำตัวนายสตีฟ ออกจากห้องขังมาสอบสวนอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ นายสตีฟ รับสารภาพต่อหน้าตำรวจ สภ.นาทม และตำรวจชุดสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนภาค 4 พร้อมภรรยา ว่า ได้ใช้ปืนขนาด .22 ยิงผู้อื่นจริง พร้อมพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดที่เกิดเหตุและชี้จุดที่ซุกซ่อนอาวุธปืนและปลอกกระสุนจำนวน 3 นัด และพาไปตรวจชุดซ่อนเร้นทำลายศพ ซึ่งอยู่บริเวณหลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 10 บ.เซกาใต้ ต.เซกา โดยใช้รถแบ๊กโฮขุดหลุมและนำศพนายคริสโตปฟ์ หลังตรวจสอบพบว่าบริเวณดังกล่าวพบโครงกะโหลกศรีษะของมนุษย์จริง ทีมตำรวจชุดสืบสวน 1 กองบังคับการสืบสวนภาค 4 จึงเชื่อว่านายสตีฟ เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงนายคริสโตปฟ์ หรือมีส่วนร่วมรู้เห็นในการตายของนายคริสโตปฟ์จริง จึงคุมตัวส่งมอบให้ สภ.เซกา เจ้าของพื้นที่ดำเนินการตามกฎหมาย

Advertisement

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. หลังสอบสวนนายสตีฟ มิลเซลโจเอล ผู้ต้องหา พร้อมล่ามที่เป็นภรรยาและทนายความ มีพ่อตาและญาติๆ ฝั่งภรรยาของนายสตีฟ มิลเซลโจเอล มาเยี่ยมให้กำลังใจ หลังสอบสวนนานกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง ท่ามกลางความตึงเครียด ร้อยเวรจึงนำตัวนายสตีฟ มิลเซลโจเอล ออกจากห้องกลับเข้าห้องขังเพื่อรอส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้เช้า

โดยผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณโกดังไม่มีเลขที่ อยู่ริมหนองกะซะ บ้านเซกาใต้ หมู่ 10 ต.เซกา โดยที่บริเวณห้องโถงเก็บเครื่องมือที่เป็นจุดทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายกันก่อนที่ นายสตีฟ มิลเซลโจเอล จะยิงนายคริสโตปฟ์ ที่ชายโครง 3 นัด ยังพบร่องรอยคลาบเลือดอยู่ และผู้สื่อข่าวได้เปิดเฟสบุ๊กของนายคริสโตปฟ์ ที่ใช้ชื่อว่า Tophe Riders พบว่า นายคริสโตปฟ์ ได้โพสต์คลิปไว้วันที่ 4 ก.ย. ปีที่แล้ว ขณะตัวเองขับรถไถ ปรับหน้าดิน ซึ่งคาดว่าเป็นที่ดินแปลงที่เกิดเหตุแห่งนี้ ขณะที่มารับจ้างทำงานรายวันกับนายสตีฟ มิลเซลโจเอล ผู้ต้องหา

ด้าน น.ส.ศิวารัตน์ ทองแดง ญาติภรรยาของผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า นายสตีฟ มิลเซลโจเอล เป็นคนจิตใจดีมาก มีอาชีพเป็นช่าง แต่พอมาเจอเรื่องคุกคามรีดไถ จากเพื่อนร่วมชาติด้วยกัน แก่ก็เป็นคนเงียบๆ ดูเครียดมาก เพราะแก่ห่วงครอบครัวของแก่ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ผ่านมาก็ได้ยินเรื่องผู้ตายมาขอยืมเงินจากผู้ก่อเหตุตลอด หลังๆ มายืมไม่ได้ก็ข่มขู่ตลอด ซึ่งหลายครั้งมาก ทางผู้ก่อเหตุก็แจ้งผู้ใหญ่บ้านไว้ตลอด เพราะกลัวว่าผู้ตายจะมาทำร้าย ซึ่งระหว่างผู้ตายกับผู้ก่อเหตุก็ไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว แต่ผู้ตายก็มาข่มขู่ รีดไถเงินเป็นประจำ และมาก่อกวนตลอดจนลูกๆ ของผู้ก่อเหตุไม่ได้ไปโรงเรียน ซึ่งตนเองเห็นใจนายสตีฟ มิลเซลโจเอล มาก

Advertisement

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายนฤมิตร จำปาทอง ทนายความ หลังให้ปากคำเสร็จสิ้น บอกว่าลูกความก่อเหตุเพียงคนเดียวหลังยิงผู้ตายในโกดังหลังทะเลาะกัน แล้วได้ลากศพไปเผาหลังโกดัง พร้อมเปิดข้อความแชตทาง messenger ที่นายคริสโตปฟ์ ผู้ตายส่งมาคุกคาม รีดไถเงิน และข่มขู่ ให้ผู้ก่อเหตุหาเงินมาให้จำนวน 850,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการอยู่อาศัยและขอทำวีซ่าอยู่ในประเทศไทยต่อ ซึ่งผู้ก่อเหตุก็บอกไม่ให้ เพราะมีความจำเป็นและมีครอบครัวที่ต้องดูแล

ดยก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุได้มาแจ้งความร้องเรียนถึงพฤติกรรมของผู้ตายที่ สภ.เซกา หลายครั้ง ร่วมถึงไปร้องทุกข์ที่ ตำรวจ ตม.บึงกาฬ ที่อยู่ในตัวจังหวัด และตำรวจ ตม.ก็นัดจะลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในวันที่ 25 พ.ค. แต่มาเกิดเหตุซะก่อน ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุก็ช่วยเหลือผู้ตายมาตลอด ไม่มีงานไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ผู้ก่อเหตุก็จ้างให้มาช่วยงานที่โกดังที่เตรียมจะเปิดเป็นคาเฟ่ กับอู่ซ่อมรถ ซึ่งบ้านอยู่ห่างกัน 6-7 กิโลเมตร

“ส่วนคดีเบื้องต้นร้อยเวรได้ตั้งข้อหา 3 ข้อหา ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซ่อนเร้นอำพรางศพ และฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพ แต่ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนานั้นทำไปเพราะเป็นเหตุเกิดจากการป้องกันตัว ซึ่งญาติก็ไม่ประสงค์ที่จะประกันตัว” ทนายความกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image