ลุงโหดเข้ามอบตัว ยิงหนุ่ม 28 ดับสลด เพราะฉุน เหม็นกลิ่นพ่นยาในนาข้าว
เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น. วันที่ 12 มิถุนายน ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอินทร์บุรี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังโรงพยาบาลอินทร์บุรี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายสุเมธ (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวา 1 นัด
ขณะที่ผู้ก่อเหตุหรือมือยิง ทราบชื่อว่า นายสุพจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี หลังก่อเหตุได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจขอเข้ามอบตัวที่ สภ.อินทร์บุรี ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสุพจน์เข้าห้องสอบสวนทันที
นางอารีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี แม่ของนายสุเมธ ผู้ตาย ที่เดินทางมาติดต่อขอรับศพลูกชาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนมีลูกทั้งหมดสามคน ผู้ตายเป็นลูกชายคนโต และมีน้องสาวอีกสองคน เช้าวันเกิดเหตุลูกชายซึ่งมีอาชีพรับจ้างบินโดรนหว่านข้าว ปุ๋ย ฉีดยา ให้กับชาวนาในพื้นที่ ขับรถยนต์ออกจากบ้านพร้อมกับ น.ส.เปิ้ล (นามสมมุติ) น้องสาวคนที่สอง เพื่อบินโดรนฉีดยาในนาข้าวให้แก่ผู้จ้างวานในพื้นที่ตำบลประศุก
กระทั่งช่วงสายวันเดียวกัน น.ส.เปิ้ล ลูกสาวของตนโทรศัพท์มาบอกว่า นายสุเมธ ลูกชายของตนถูกยิง ขณะนี้อยู่ที่โรงพยาบาลอินทร์บุรี จึงได้รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาล และทราบว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว
นางอารีย์เล่าเพิ่มว่า ก่อนเกิดเหตุระหว่างที่ผู้ตายกำลังนั่งบังคับโดรนให้บินพ่นยาลงในพื้นนาข้าวอยู่นั้น ในพื้นที่แปลงนาข้างๆ มีนายสุพจน์กำลังขับรถไถย่ำนาอยู่ ละอองยาจากโดรนเกิดปลิวไปจนทำให้นายสุพจน์เกิดความไม่พอใจ จนเกิดการโต้เถียงกัน
ซึ่งระหว่างนั้นนายสุพจน์ก็ได้เดินมาตบที่หน้าของนายสุเมธอย่างแรง จนนายสุเมธตกจากเก้าอี้สนาม และเมื่อนายสุเมธลุกขึ้นมาได้ก็เกิดการสาวหมัดใส่กัน แต่นายสุพจน์ซึ่งมีอายุมากกว่า สู้กำลังนายสุเมธที่หนุ่มกว่าไม่ได้ จึงได้ชักอาวุธปืนในย่ามที่สะพายไว้ออกมายิงนายสุเมธไป 1 นัด กระสุนเจาะเข้าที่หน้าอกด้านขวา นายสุเมธจึงพยายามวิ่งหนีกลับไปขึ้นรถยนต์ที่จอดไว้ แต่นายสุพจน์ก็วิ่งตามไปยิงอีก 2 นัด
กระสุนถูกกระจกหน้ารถแตกกระจาย แต่ไม่ถูกร่างของนายสุเมธ จากนั้นนายสุพจน์ยังพยายามจะยิงมาที่ น.ส.เปิ้ลอีก แต่ น.ส.เปิ้ลวิ่งหนีได้ทัน ก่อนจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาให้การช่วยเหลือ นำตัวนายสุเมธ พี่ชายส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ขณะที่ทางด้าน สภ.อินทร์บุรี เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุพจน์ มือยิงเข้ามาสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามสาเหตุที่แท้จริงในการก่อเหตุ แต่นายสุพจน์ไม่ตอบคำถามใดๆ ได้แต่เดินก้มหน้าหลบนักข่าว โดยมีญาติๆ ของนายสุพจน์เดินทางมารออยู่ด้านนอกประมาณ 5-6 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุพจน์คุมขังไว้จนกว่าจะสอบสวนเสร็จ ก่อนจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
