ลูกสาวร่ำไห้ พา พ่อป่วยหนัก นอนรอความตายในศาลาวัด หลังเจ้าของบ้านเช่าไม่ให้ไปตายที่บ้าน

ไม่รู้จะพาไปไหน! ลูกสาว พ่อป่วยนอนรอความตายในศาลาวัด หลังยอมยุติการรักษา พาออกจากรพ. แต่เจ้าของบ้านเช่าไม่ให้ไปตายที่บ้าน

สลด ลูกสาวพาพ่อใกล้ตายไปอยู่ที่ศาลาตั้งศพวัด นอนรอความตาย หลังยอมยุติการรักษาและพาออกจากโรงพยาบาล เจ้าของบ้านเช่าไม่ให้ไปตายที่บ้าน เผยเข้าใจทุกฝ่ายดี อดีตนายอำเภอหาดใหญ่และโรงพยาบาลหาดใหญ่ช่วยเหลือแล้ว ย้ายจากศาลาตั้งศพไปอยู่ที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูโรงพยาบาลบางกล่ำ

VIDEO CONTENT AVERTISEMENT

เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน รายงานว่า ที่ จ.สงขลา มีเรื่องที่หดหู่ใจและสะเทือนความรู้สึกของผู้ที่พบเห็น ลูกต้องจำใจนำพ่อที่ใกล้จะเสียชีวิตไปนอนรอความตายภายในศาลาตั้งศพในวัดทั้งน้ำตาเพราะไม่รู้จะพาไปไว้ที่ไหน

หลังจากที่อาการป่วยเกินเยียวยาต้องยอมให้แพทย์ยุติการรักษาและต้องนำออกจากโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถนำกลับไปอยู่ในบ้านเช่าได้ เพราะเจ้าของบ้านไม่อยากให้มีคนตายในบ้านเช่า จึงต้องพามานอนรอความตายที่ศาลาตั้งศพภายในวัดแทน

ADVERTISMENT

รายงานว่า เหตุเกิดที่วัดโคกสมานคุณ (พระอารามหลวง) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา น.ส.พัชรา เกื้อกูล หรือนุ่ม อายุ 23 ปี ต้องจำใจพาพ่อคือ นายยง อายุ 63 ปี หรือลุงยง มานอนรอความตายที่ศาลาตั้งศพภายในวัดโคกสมานคุณ ซึ่งอยู่หลังเมรุเผาศพ และใกล้เสียชีวิตเต็มที ร่างกายไม่ตอบสนอง มีแค่ลมหายใจเข้าออก และกลายเป็นภาพที่สะเทือนใจกับผู้ที่พบเห็นเพราะใกล้ๆ มีศาลาตั้งศพกำลังมีการจัดงานศพอยู่ด้วย

ADVERTISMENT

จากการสอบถาม น.ส.พัชรา ลูกสาว บอกว่าพ่อประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนรถจักรยานยนต์ตั้งแต่เดือน ม.ค.67 นอนรักษาตัวเรื่อยมาเกือบ 6 เดือน ครั้งแรกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (ม.อ.) และเพิ่งย้ายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ได้ 13 วัน พบว่าอาการทรุดหนัก หมดทางรักษาแม้จะผ่าตัดมาแล้ว 4 ครั้ง ทางญาติจึงยอมยุติการรักษาให้แพทย์ถอดเครื่องช่วยหายใจออกเพื่อไม่ให้พ่อทรมานและจากไปอย่างสงบ พาร่างพ่อออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ แต่ว่าเจ้าของห้องบ้านเช่าไม่ต้องการให้นำพ่อกลับไปตายที่บ้านเช่า

“ต้องจำใจนำพ่อมาอยู่ที่ศาลาตั้งศพภายในวัดโคกสมานคุณไปก่อน เพราะไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เพราะเดิมเป็นคน จ.หนองคาย ไม่ใช่คนหาดใหญ่ และมาเช่าบ้านทำมาหากินอยู่ที่หาดใหญ่ โดยอาศัยอยู่กับแม่ พี่สาว ส่วนพ่อจะไปๆ มาๆ”

น.ส.พัชรากล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเข้าใจทุกฝ่ายดี ทั้งโรงพยาบาลหาดใหญ่กรณีคนไข้ยุติการรักษา ญาติก็ต้องรับกลับบ้าน เข้าใจทางเจ้าของบ้านเช่าเพราะไม่มีใครอยากให้มีคนเข้าไปตายในห้องเช่า แต่สงสารพ่อที่ต้องมานอนรอความตายอยู่ภายในศาลาตั้งศพภายในวัด แทนที่จะได้กลับมาตายที่บ้าน เพราะไม่รู้ว่าจะพาพ่อที่ใกล้ตายไปอยู่ที่ไหน

รายงานว่า นายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือปลัดแป้น ซึ่งเคยเป็นอดีตนายอำเภอหาดใหญ่และอดีตปลัด จ.สงขลา ซึ่งได้เดินทางมาเป็นประธานฌาปนกิจ และทราบเรื่องก็ได้ช่วยประสานงานกับวัด ครั้งแรกได้จัดที่ให้นำ ลุงยงไปอยู่ภายในศาลาตั้งศพอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นอาคารปิดมิดชิด ไม่อุจาดตาและสะดวกกว่าศาลาตั้งศพเดิม ซึ่งเป็นที่โล่งแจ้งไม่ทำให้รู้สึกสะเทือนใจกับผู้พบเห็น

รายงานว่า นายณรงค์พรได้ประสานไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่อีกครั้งเพื่อดูว่าจะช่วยเหลือลุงยงได้อย่างไรบ้าง เพราะดูอาการแล้วน่าจะยังอยู่อีกหลายวัน ไม่น่าเสียชีวิตทันทีในวันนี้ หากปล่อยให้อยู่ในศาลาตั้งศพแบบนี้ไม่เหมาะสมและสงสารครอบครัวด้วย

เมื่อโรงพยาบาลหาดใหญ่ทราบเรื่องรีบช่วยเหลือทันที แม้ว่าญาติคนไข้รายนี้จะยุติการรักษาแล้ว จัดรถพยาบาลมารับลุงยงไปดูแลที่ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูโรงพยาบาลบางกล่ำ ซึ่งเป็นเครือข่ายโรงพยาบาลหาดใหญ่จนกว่าจะเสียชีวิต

นายณรงค์พรกล่าวว่า หากลุงยงเสียชีวิตให้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพภายในวัดโคกสมานคุณได้เลย ซึ่งหากตั้งวันเดียวก็ไม่มีค่าใช้จ่าย หากตั้งศพสองวันต้องจ่าย 3,000 บาท ตั้งศพสามวันจ่าย 7,000 บาท โดยตนจะช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายให้

ด้าน น.ส.พัชรา ลูกสาวลุงยง บอกว่า ถ้าพ่อเสียชีวิตอาจจะตั้งศพวันเดียวแล้วเผาเลย และขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ยื่นมือมาให้การช่วยเหลือ ให้พ่อได้มีที่อยู่ก่อนที่จะเสียชีวิต เพราะพวกตนก็ไม่รู้ว่าจะพาพ่อไปอยู่ที่ไหนแล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงดูแลพ่อจนลมหายใจสุดท้ายเท่านั้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image