จากกรณีนายภาคภูมิ บัวหอม อายุ 36 ปี ผู้ช่วยหมวดการทางเขาพระงาม จ.ลพบุรี อยู่บ้านเลขที่ 3/1 ต.ทะเลชุบศร อ.ลพบุรี จ.ลพบุรี ขับรถยนต์ เก๋ง ฮอนด้า สีดำ หมายเลขทะเบียน กน-5595 ลพบุรี จากจ.ลพบุรี เพื่อไปเยี่ยมญาติในกรุงเทพมหานคร มาตามถนนสาย347 มาถึงบริเวณ 4แยกเจ้าปลุกพบเห็นกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถจยย.มาเป็นกลุ่มกว่า 20 คัน และได้ขับแซงระหว่างนั้นได้บีบแตรเพื่อขอทาง กลุ่มวัยรุ่นที่ขับขี่รถจยย.ไปพอใจ ไปดักรอ อยู่บริเวณทางเข้าเทศบาลตำบลมหาราช แล้วใช้ท่อนไม้ทุบจนได้รับความเสียหาย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวกล้องหน้ารถสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา นายชิณวัฒน์ วิสุทธิธรรม อายุ 22 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.วันลภย์ เนตรถาวร ผกก. พ.ต.ท.บรรเทิง จันทร์ฉาย รองผกก. สอบสวน สภ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.มหาราช ได้สืบสวนตรวจสอบจากภาพกล้องหน้ารถที่บันทึกภาพ จนทราบว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้ท่อนไม้ทุบรถยนต์เก๋ง โดยพ.ต.อ.วันลภย์ ได้ทำการอบรม ในเรื่องของกฎจราจรและข้อกฎหมายพร้อมทั้งให้มีสติ และมีความใจเย็น ทุกครั้งที่เริ่มขับรถต้องมีสติทันที เพราะเราต้องใช้รถใช้ถนนร่วมกัน มีการผิดพลาดต้องให้อภัยกัน
พ.ต.ท.บรรเทิง กล่าวว่าได้ตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นคดีความที่ยอมความกันได้หากมีการเจรจาตกลงค่าเสียหายกับเจ้าของรถได้ และทำการเปรียบเทียบปรับในข้อหาขับรถโดยประมาทซึ่งเป็นโทษปรับ 1,000 บาท
นายนายชิณวัฒน์ กล่าวว่าวันเกิดเหตุตนเอง ขับรถจยย.มากับกลุ่มเพื่อนประมาณ 10 กว่าคัน ไปท่องเที่ยวที่วัดเขาวงพระจันทร์ จ.ลพบุรี อยู่ระหว่างเดินทางกลับ มีรถยนต์เก๋งขับแซงขึ้นจนจะเฉี่ยวตน แต่ไม่ได้ยินเสียแตร จึงเกิดความโมโหไปดักรอ คว้าเอาท่อนไม้ที่อยู่ข้างทาง ทุบไปที่รถ จากนั้นได้ขับรถกลับมาที่บ้าน จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามมาที่บ้าน ต้องขอโทษเจ้าของรถด้วยที่ตนเองได้ทำลงไปด้วยความโมโห และขาดสติ
