วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 นายวีรวิชญ์ เครือสมบัติ ประธานชมรมผู้ประกอบการสถานบั
นายวีรวิชญ์กล่าวว่า ในพื้นที่เมืองป่าตองมีสถานบริการที่ลงทะเบียนไว้กับชมรมประมาณ 200 กว่าแห่ง จากทั้งหมดในพื้นที่ป่าตองประมาณ 300 แห่ง โดยส่วนใหญ่อยู่ในซอยบางลาและใกล้เคียงถึง 200 กว่าแห่ง ใน 200 กว่าแห่งมีพนักงานรวมหลายพันคน พนักงานเหล่านี้ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเมื่อปิดเร็วก็ได้เงินทิปจากนทท.น้อยลงด้วย และเมื่อได้ทิปน้อยลงก็ทำให้ครอบครัวของพนักงานเหล่านี้ก็ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งไม่รวมถึงอาชีพอื่นๆ ทั้งนี้การปิดตามกม.ในเวลา 24.00 น.และ 01.00น. นั้นทำให้นทท.มีเวลา แค่ 1 ชม.เนื่องจากเวลาที่นทท.เดินทางมาซอยบางลาเยอะที่สุดจะอยู่ในช่วง 5 ทุ่มถึง เที่ยงคืน
ด้านนายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ตัวแทนผู้ประกอบการสถานบันเทิ
“การที่จังหวัดภูเก็ตเข้มงวดให้
ขณะที่นายโชคชัย เดชอมรธัญ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานบริการและสถานบันเทิงจะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย สถานบริการจะต้องปิดในเวลา 24.00 น. และสถานบันเทิงจะต้องปิดในเวลา 1 นาฬิกา แต่อาจจะต้องมีเวลาต่อเนื่องเล็กน้อย เช่น ระหว่างรอเช็คบิล ช่วงที่นักท่องเที่ยวกำลังติดพันขณะที่ใช้บริการได้บ้างเล็กน้อย แต่จะต้องเปิดไฟเพื่อแสดงให้เห็นว่าสถานบันเทิงนั้นๆ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายกำหนด แม้อยู่ในกรอบกฎหมายก็ต้องไม่ให้ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวมากนัก โดยเฉพาะในพื้นที่หาดป่าตอง ซึ่งต้องยอมรับว่า ผู้ที่ใช้บริการเกือบทั้งหมด 99.99% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ขณะที่คนไทยไปใช้บริการน้อยมาก และการให้บริการที่หาดป่าตองก็ไม่ได้ส่งผลกระต่อสังคมโดยรวมของภูเก็ต
“ภาพรวมกฎหมายที่เกี่ยวกับสถานบริการและสถานบันเทิง ควรมีการปรับปรุงเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันและเหมาะสมกับสภาพแต่ละพื้นที่ เมื่อผู้ประกอบการได้ยื่นหนังสือมายังจังหวัด เพื่อให้เสนอไปยังหน่วยเหนือ เพื่อขอให้แก้ไขเวลาในการเปิด-ปิดสถานบริการและสถานบันเทิงดังกล่าว ทางจังหวัดก็จะส่งข้อเรียกร้องดังกล่าว ไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าหน่วยเหนือจะรับฟังเหตุของผู้ประกอบการ แต่ในระยะนี้ขอให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด“ นายโชคชัย กล่าว
ล่าสุด นายโชคชัย เปิดเผยว่า ทางจังหวัดภูเก็ตได้ส่งหนังสือให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าจะขยายเวลาได้มากน้อยแค่ไหน โดยพื้นที่ที่มีการขอขยายเวลาจะเป็นพื้นที่โซนนิ่งเดิม หากมีการขยายเวลาตามบริบทของพื้นที่แล้วก็จะทำให้ปัญหาที่ส่วนราชการถูกกล่าวหาก็จะหมดไป แต่ในเมื่อยังไม่มีการแก้ไขทุกคนก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งตนทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเป็นอย่างดี เพราะผู้มาเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และใช้เวลาอยู่ไม่นานก็เดินทางกลับประเทศ