หนุ่มโวย เจอค่าไฟกระโดด ขึ้นทีเป็นพันๆ สับคัตเอาต์แล้วหม้อแปลงยังหมุนติ้ว
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ประธาน มู ได้โพสต์เรื่องบิลค่าไฟที่แพงกระโดดขึ้น เมื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าบอกเป็นเพราะอากาศร้อน ค่าไฟเลยเพิ่ม แต่เมื่อไปตรวจสอบหม้อแปลงไฟฟ้ากลับพบว่ามีความผิดปกติ มิเตอร์ไฟหมุนเร็วทั้งที่เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ใช้เท่าเดิม ลูกก็เปิดเทอมแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาดู แล้วทำการสับคัตเอาต์ และชักสายที่หม้อแปลงแต่มิเตอร์ยังหมุนอยู่ พร้อมกับมีคลิปภาพหม้อแปลงไฟฟ้าที่ไม่มีสายไฟเสียบเข้าตัวหม้อแปลง แต่มิเตอร์ยังหมุนอยู่
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม นายกิตติ แสงกริด อายุ 44 ปี ชาว ต.หนองอ้อ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้รับความเดือดร้อนจากที่ไฟฟ้าแพงกระโดดขึ้นเป็นพันบาท เมื่อไปดูหม้อแปลงไฟฟ้าที่หน้าบ้าน ซึ่งเป็นหม้อแปลงขนาด 15 แอมป์ และยังเห็นมิเตอร์ไฟวิ่งอยู่
นายกิตติเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยสังเกตเรื่องค่าไฟฟ้า แต่หลังจากที่ลูกเปิดเทอมแล้วก็มาสังเกตเห็นว่าค่าไฟเพิ่มขึ้นผิดปกติทุกเดือน ทั้งที่ใช้ไฟลดลง จนมาสังเกตเห็นเมื่อประมาณ 3 เดือนค่าไฟเพิ่มขึ้นมาก เมื่อสอบถามไปยังการไฟฟ้าก็บอกว่าเพราะเป็นหน้าร้อน การใช้ไฟก็เพิ่มขึ้น ซึ่งพอมาเดือนนี้ค่าไฟกระโดดขึ้นมาเดือนละ 1,000 บาท จากที่เคยเสียแค่ 2,000 กว่าบาท เพิ่มมา 3,000 กว่าบาท และเดือนที่แล้วเพิ่มมาถึง 4,000 กว่าบาท ทั้งที่ในบ้านมีแค่ตู้เย็น 3 ตู้ แอร์ 1 ตัว เปิดแค่เฉพาะเวลากลางคืน และดวงไฟ 1 ดวง
เมื่อไปสอบถามตามบ้านเพื่อนก็พบว่าเขาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่าหลายอย่าง และเปิดแอร์ทั้งวัน แต่เสียค่าไฟแค่เดือนละ 2,000 กว่าบาท ทำให้รู้ว่าค่าไฟของเราผิดปกติ จึงได้ลองสับคัตเอาต์ในบ้านลง พอมาดูที่หม้อแปลงพบว่ามิเตอร์ยังมีการหมุนไปเรื่อยทั้งที่ควรหยุดนิ่ง เพราะไม่มีไฟไปหล่อเลี้ยง จึงแจ้งทางเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาดู และตรวจวัดก็พบว่าไฟไม่รั่ว แต่เมื่อทำการถอดสายออกจากหม้อแปลงไฟฟ้าก็พบว่ายังหมุนอยู่
เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอธิบายว่า ที่หม้อแปลงหมุนนั้นช้ามากและกว่าจะได้รอบ 1 หน่วยต้องใช้เวลา ซึ่งตนมองว่าถ้าสะสมทุกวันค่าไฟก็จะขึ้นตามไปด้วย และเมื่อทำการเสียบสายไฟเข้าที่หม้อแปลงก็พบว่ามิเตอร์วิ่งเร็วมากกว่าเดิม เจ้าหน้าที่จึงแนะนำให้ตนเปลี่ยนหม้อแปลง แต่ตนมองว่าถ้าเปลี่ยนหม้อแปลงแล้วส่วนต่างค่าไฟที่ตนต้องเสียไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นั้น ทางการไฟฟ้าจะรับผิดชอบอย่างไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้แจ้งไปทำการขอหม้อแปลงตัวใหม่มาเทียบ โดยเสียเงินอีก 107 บาท เพื่อจะดูว่ามิเตอร์ไฟฟ้าตัวนี้เสียจริงหรือไม่ ซึ่งก็จะดำเนินการตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ
“อยากฝากเตือนให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าทุกคนให้หมั่นสังเกตเรื่องของค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมิเตอร์ไฟของเราอาจจะเสียและเราจะเสียค่าไฟส่วนต่างที่เราไม่ได้ใช้มานานแล้วก็ได้ ขอให้ลองสับคัตเอาต์แล้วลองมาดูที่หม้อแปลงไฟฟ้าว่ายังมีการหมุนหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียค่าไฟที่แพงเกินจริง และในเรื่องนี้ก็ยังไม่รู้ว่าทางการไฟฟ้าจะชดเชยให้เรายังไง” นายกิตติกล่าว
