ลูกชายวัย 45 คลั่งยา จิกหัวแม่ 74 ลากทำร้ายรอบบ้าน พ่อสุดทนชักปืนยิงขาจนสิ้นฤทธิ์
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ต.ท.ยืนยง คำบอน สว.สอบสอน สภ.กุดจับ ได้รับแจ้งเหตุมีชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ม.1 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี เบื้องต้นผู้บาดเจ็บยังอยู่ในบ้าน ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ยืนรอมอบตัวในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้น พ.ต.อ.อัมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.กุดจับ ได้เร่งนำตัวผู้บาดเจ็บส่งรักษา รพ.กุดจับ
ที่เกิดเหตุบ้านสวน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่บริเวณโถงชั้นล่างพบนายกิตติชัย หรือยาน อายุ 45 ปี สวมกางเกงขาสั้นสีดำตัวเดียว ถูกยิงเข้าที่ต้นขาขวา กระสุนฝังใน เลือดไหลนองเต็มพื้นบ้าน ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือ นายกิตติชัย ได้สอบถามอาการและสาเหตุที่ถูกยิง โดยให้การด้วยอาการสับสนว่า “มันเป็นเรื่องของหลวงปู่ทองใบ หลวงปู่ทองใบเป็นคนบงการทั้งหมด ”
ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายยงยุทธ อายุ 75 ปี พ่อของนายกิตติชัย ก่อนที่จะกลับไปสวนที่ บ.นาหนองทุ่ม ต.สร้างก่อ อ.กุดจับ และรอมอบตัวพร้อมของกลางอาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 มีทะเบียน กระสุน 6 นัด เป็นกระสุนจริง 2 นัด ลูกซ้อม 4 นัด ปลอกกระสุน 1 ปลอก
นายยงยุทธ รับสารภาพว่าก่อเหตุยิงลูกชายจริง เนื่องจากลูกชายเสพยาคุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายร่างกายแม่ จนแม่ต้องหนีออกจากบ้าน เมื่อพ่อกลับมาถึงบ้านก็ยังคุ้มคลั่งไม่เลิก ทำร้ายร่างกายพ่อซ้ำอีก จึงต้องยิงสวนออกไปเพื่อป้องกันตัว ก่อนถูกควบคุมตัวไปทำการสอบสวนที่โรงพัก
ส่วนนายยงยุทธ ผู้เป็นพ่อ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนออกไปทำสวนทุเรียนกับอดีตลูกศิษย์ที่มาช่วยงานตั้งแต่เช้า ปล่อยให้ภรรยาอยู่บ้านกับลูกชาย ช่วงสายภรรยาโทรมาบอกว่าลูกชายอาละวาดทำร้ายร่างกาย ตอนนี้หนีออกมาจากบ้านได้แล้ว ตนจึงออกมาดูที่บ้านช่วงบ่ายโมง เมื่อมาถึงก็เห็นลูกชายนอนอยู่ในห้องนอน ตนจึงไปต่อว่าและสั่งสอน ทำไมถึงต้องทำร้ายแม่ถึงขนาดนั้น แม่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก ไม่มีความสำนึกเลยหรือไง ลูกชายก็เถียงว่าแม่ขโมยเงินเขาไป 3 พัน ที่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง
“ตนก็ต่อว่าลูกชายอีก เงินแค่ 3 พัน ทำไมต้องทำกับแม่ได้ รถยนต์คันละ 4 – 5 แสน แม่ก็ยังซื้อให้ได้ จากนั้นลูกชายก็เริ่มโมโห ด่ากลับพ่อว่า คนต่อไปคือมืงนั่นแหละไอ้ยงยุทธ แล้วลูกชายก็ปรี่เข้ามาบีบคอตน ก็ต่อสู้กันอยู่สักพัก จึงร้องเรียกอดีตลูกศิษย์ให้มาช่วย เมื่อลูกชายชะงัก ตนจึงชักปืนออกจากเอว ยิงสวนไป 1 นัด จนลูกชายล้มลง ตนเตรียมปืนไว้เพื่อป้องกันอยู่แล้ว เพราะรู้ว่าลูกชายคลั่ง และมีอาวุธมีดอยู่ในห้อง ไม่ได้หวังถึงชีวิต กระสุนที่ยิงออกไปก็เป็นลูกซ้อม แค่ยิงเพื่อสกัดลูกชายให้หายคลั่งเท่านั้น เสียใจมากที่ต้องยิงลูกชาย แต่ถ้าตนไม่ยิงเขาอาจจะเป็นตนก็ได้ที่จะต้องตาย”
นายอำนวย อายุ 34 ปี เล่าว่า ตนเป็นอดีตลูกศิษย์พ่อ และมาช่วยงานที่สวน ตอนแรกตั้งใจพากันไปพูดดีดี ตนรออยู่หน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงลูกชายดังขึ้น และตนเอะใจว่าอาจจะเกิดเรื่องร้าย เพราะแม่บอกว่าลูกชายลับมีดเก็บเอาไว้ในบ้าน เมื่อตนวิ่งเข้าไปดูก็เห็นเขากำคอพ่ออยู่ ตนก็เอามือตบประตูเสียงดัง เขาเห็นตนเข้าไปเขาก็หยุดชะงัก เมื่อตนดึงพ่อออกมาจากตัวเขา พ่อจึงชักปืนยิงไป 1 นัด ไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ แต่ลูกชายเขาคลั่งอาละวาดทุบตีแม่ประจำ ไม่รู้ว่าไปตกนรกขุมไหน พ่อกับตนก็ไม่มีเวลาเพราะต้องดูแลสวนทุเรียน เมื่อจะมาที่บ้านนี้พ่อก็จะชวนตนมาด้วย เพราะกลัวอันตราย กลัวจะสู้แรงเขาไม่ไหว
ต่อมา นางสุขุมาลย์ อายุ 74 ปี ภรรยานายยงยุทธ แม่นายกิตติชัย ได้เดินทางมาที่โรงพักเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้านี้แม่ว่าจะเข้าไปเอาโทรศัพท์มือถือในบ้าน ลูกชายได้ขว้างถุงยาใส่ แล้ววิ่งไปเอาไม้ถูกพื้นจะมาตีซ้ำ แม่หลบได้ แต่ลูกชายก็เตะเข้าที่ศีรษะ แม่ก็ยกมือป้องกันตัวเอง แต่ลูกชายก็ยังไม่หยุด ดึงผมแม่ลากไปลากมารอบบ้าน เมื่อสะบัดหลุดมาได้ ก็คว้ากุญแจสตาร์ทรถจักรยานยนต์หนีออกมาจากบ้านทันที
“จากนั้นแม่ก็ไปหลบซ่อนอยู่ที่อยู่ที่สำนักงานฌาปนกิจหมู่บ้าน ลูกไม่เคยตีแม่ แต่ชอบด่าทอแม่ ด่าแม่ว่าอีสันดาน กูจะจัดการมึงอีกแก้ว จนวันนี้ก็ลงมือทำร้ายแม่จนได้ สาเหตุที่ลูกชายมีอาการแบบนี้ เนื่องจากลูกชายติดยาเสพติด สมควรแล้วที่ลูกชายถูกยิง ถ้าพ่อไม่ยิงพ่อจะอาจจะถูกลูกชายฆ่าตายก็ได้ ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมที่จะเกิดขึ้น แต่ก็ยังรักลูกเหมือนเดิม”
เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหานายยงยุทธ “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บโดยใช้อาวุธปืน” ซึ่งจะได้ติดตามอาการบาดเจ็บของนายกิตติชัยฯ อีกครั้งว่าสาหัสหรือไม่ เพื่อจะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมทีหลัง ส่วนอาวุธปืนนั้นมีทะเบียนถูกต้อง และนายยงยุทธฯ ครอบครองโดยถูกกฎหมาย ซึ่งจะได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป