ผอ.เขื่อนขุนด่านปราการชล แจงน้ำท่วมนครนายก มาจาก ‘น้ำป่า’ ยัน ไม่ได้ลักไก่ปล่อยน้ำ
จากกรณีสถานการณ์ที่เขื่อนขุนด่านปราการชลจังหวัดนครนายก มีการระบายน้ำ ตั้งแต่วันที่ 1-5 สิงหาคมในระดับคงที่ แต่เนื่องจากมีฝนตกลงมาท้ายเขื่อนจำนวนมาก จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม นายจักราวุธ สุนทรวิภาต ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาขุนด่านปราการชล เปิดเผยว่า ที่หลายคนตั้งข้อสงสัย 3 ประเด็นถึงสาเหตุน้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่รีสอร์ตเมื่อคืนที่ผ่านมา คือ 1.เขื่อนลักไก่ปล่อยน้ำ 2.เขื่อนแตก และ 3.ประตูระบายน้ำพัง
ประเด็นที่ 1 เขื่อนไม่ได้ลักไก่ปล่อยน้ำ แต่เกิดจากมีฝนตกหนักบนพื้นที่เขาใหญ่ (แหล่งต้นน้ำเขื่อน) โดยสถานีเหนือเขื่อนมีปริมาณน้ำฝน 67 มิลลิเมตร ที่นางรอง 102 มิลลิเมตร และที่สาริกา 98 มิลลิเมตร ซึ่งเมื่อมีปริมาณฝนเยอะ ก็จะทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงมาทางลำน้ำมาสมทบที่แม่น้ำนครนายก โดยจะสมทบอยู่ที่ประมาณ 220 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 5.5 ล้านคิว
ส่วนการปล่อยน้ำของเขื่อนขุนด่าน เป็นการปล่อยน้ำตามแผนพร่องน้ำเนื่องจากน้ำแตะเส้นขอบบน ซึ่งทางเขื่อนได้ปล่อยน้ำเพียง 30 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนประเด็นที่ 2 และ 3 ประตูน้ำพัง หรือเขื่อนแตกนั้น ตนยืนยันว่าไม่มี
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ที่มีภาพถ่ายของชาวบ้านที่บันทึกภาพว่าเขื่อนได้ปล่อยน้ำกลางดึก นายจักราวุธ กล่าวว่า ทางเขื่อนได้มีแผนการปล่อยน้ำไปทางจังหวัดช่วงวันที่ 1-5 สิงหาคม จะมีการปล่อยน้ำออกจากเขื่อน 3 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนประตูพังหรือเขื่อนแตก ยังยืนยันว่าไม่มี
นายจักราวุธ กล่าวว่า ส่วนเหตุการณ์ที่มีเกิดน้ำท่วมรีสอร์ตกลางดึก มาจากมีปริมาณน้ำฝนที่ตกบนเขาใหญ่ ทำให้เกิดมวลน้ำป่าไหลลงมายังแม่น้ำนครนายก เป็นจำนวนมากถึง 220 ล้านลูกบาศก์เมตร
โดยหลังจากนี้ ทางชลประทานจะแจ้งไปยัง ปภ.จังหวัดนครนายก ให้แจ้งพื้นที่ปลายน้ำเตรียมการ รับทราบมวลน้ำที่จะไหลลงไปยังพื้นที่ปลายน้ำเพื่อรับมือต่อไป ตอนนี้เขื่อนมีปริมาณน้ำประมาณ 58% ซึ่งสามารถรับน้ำได้ปริมาณมาก