สกัดจับ ‘ไอ้ดิว น้ำก่ำ’ ตัวตึงขนยาบ้าริมน้ำโขง ยึด 4 แสนเม็ด คนร้ายทิ้งรถหนีไปได้
เมื่อวันที่ 7 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครพนม น.อ.วรรณะ เกื้อทิพย์ ผบ.นรข.เขตนครพนม ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับ พ.ต.ต.ราชวัตร ลาบุตร สารวัตรตำรวจน้ำ อ.ธาตุพนม พร้อมด้วย นายทินกร พลเยี่ยม ปลัดอาวุโสหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.ธาตุพนม ว่าที่ร้อยตรี พิชญะ เพียราช ปลัดอำเภองานความมั่นคง รวมถึงเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่วางมาตรการเข้ม สกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก คัดกรองทั้งผู้เสพผู้ค้า ในพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เนื่องจากเป็นพื้นที่ชายแดนที่ยังมีการแพร่ระบาดของยาเสพติด
ชาวบ้านได้ร่วมกันแจ้งเบาะแสคลิปวิดีโอวัยรุ่นตัวตึงในหมู่บ้าน มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด โดยจะเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์รับจากขนยาเสพติด ในพื้นที่ริมน้ำโขง ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ทราบชื่อภายหลังคือ นายดิว (นามสมมุติ) อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม ตรวจสอบมีหลักฐานฐานสำคัญเป็นคลิปเหตุการณ์ขณะนายดิวใช้ จยย. ขี่ไปรับสิ่งของต้องสงสัย เป็นกระสอบปุ๋ยขนาดใหญ่ ที่เรือต้องสงสัยจะเทียวมาส่งตามแนวชายแดน และมีการลำเลียงไปพักไว้ในพื้นที่ รอนายทุนมารับช่วงส่งต่อไปขายอีกทอดหนึ่ง
จากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่ากระสอบปุ๋ยดังกล่าว บรรจุยาบ้าที่ลักลอบนำเข้ามาจาก สปป.ลาว และใช้เยาวชนในพื้นที่ทำงานรับจ้างขนลำเลียง โดยจะได้ค่าจ้างครั้งละ 3,000-5,000 บาท คาดว่ามีชาวบ้านในพื้นที่เป็นเครือข่าย
ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา น.อ.วรรณะระดมกำลังเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง ลงพื้นที่วางกำลัง ตรวจสอบจับกุมตามเบาะแส ในพื้นที่เป้าหมาย ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พบบุคคลต้องสงสัย เชื่อว่า เป็นนายดิวขับรถจักรยานยนต์ มารับกระสอบปุ๋ย ซึ่งบรรจุสิ่งของภายในมาเต็มกระสอบ บรรทุกใส่ท้ายรถจักรยานยนต์ เตรียมขนส่งออกจากพื้นที่ริมโขง จึงเข้าสกัดตรวจค้น ทำให้นายดิวทิ้งรถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ตรวจสอบกระสอบปุ๋ย พบภายในบรรจุห่อยาบ้า จำนวน 60 ห่อ เป็นแพคเกจกันสีเหลือง มีตัวอักษร Y1 สีน้ำเงิน ตรวจนับได้จำนวน 396,000 เม็ด รวมมูลค่า ประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนใหญ่มีราคาซื้อขายเม็ดละ 5-10 บาท อีกทั้งยังเป็นยาบ้าที่กำลังแพร่ระบาดขายในพื้นที่ชานแดนอีสาน
ส่วนนายดิวที่กำลังหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐาน มอบหมายให้ตำรวจเสนอออกหมายจับ ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้งยังพบว่า มีผู้ใหญ่บ้านบางรายในพื้นที่ปิดบังข้อมูล ได้ประสานทางปกครองคาดโทษและเชิญตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง วางมาตรการป้องกันการทะลักของยาเสพติดตามพื้นที่ชายแดน
ทั้งนี้ น.อ.วรรณะเปิดเผยว่า ปัจจุบัน ยอมรับว่าในช่วงน้ำโขงเพิ่มสูง เอื้อต่อความสะดวก ให้กับขบวนการค้ายาเสพติด มีการลักลอบขนส่งเข้ามาในพื้นที่ชายแดนอีสานมากขึ้น เพราะลำเลียงขนส่งง่าย มีการจับบ่อยครั้ง และส่วนใหญ่จะพบว่า มีเครือข่ายในพื้นที่ดูแล จึงต้องวางมาตรการป้องกันทุกรูปแบบ ทั้งการประสานกับทุกหน่วยงาน ลงพื้นที่ลาดตระเวน ตรวจสอบ ไปจนถึงสร้างความร่วมมือกับชุมชนแจ้งเบาะแส หาข่าว รวมถึงคัดกรองทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ดำเนินคดีทุกราย ตัดวงจรการค้า