ร้อง ป.ป.ช.สอบจุดชมวิว 5.9 ล้านถูกทิ้งร้าง อบต.ลั่นไม่ได้เท แจงเหตุเข้าดูแลไม่ได้

ชาวบ้านหนองบัว อำเภอรัษฎา ร้อง ป.ป.ช.ตรวจสอบการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยว จุดชมวิว ควนไอ้กวาง ใช้งบ 5.9 ล้านบาท แต่กลับถูกทิ้งให้รกร้าง ขาดการดูแลปล่อยให้หญ้าขึ้นปกคลุมทรุดโทรมมานานนับปี

เมื่อวันที่ 10 กันยายน นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต พร้อมด้วยเจ้าพนักงานป้องกันการทุจริต ป.ป.ช.ตรัง และ นายรวยไชย ชัยสุริยา ผู้อำนวยการกองช่าง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว (อบต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพการก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวจุดชมวิว ควนไอ้กวาง ใช้งบ 5.9 ล้านบาท แต่ไม่ได้ใช้งาน ขาดการดูแลปล่อยให้หญ้าขึ้นรกร้างทรุดโทรม หลังจากที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนมายัง ป.ป.ช.ตรัง ขอให้เข้าตรวจสอบ

จุดชมวิวควนไอ้กวาง (ถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม) หมู่ 4 ต.หนองบัว อ.รัษฎา จ.ตรัง ซึ่งโครงการดังกล่าวได้ของบจากกรมปกครองส่วนท้องถิ่นมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวจำนวน 5.9 ล้านบาท ก่อสร้างเมื่อปี 2565 โดยในขณะนั้น นายสมชาย สงรักษ์ ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัว

โดยข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า จุดชมวิวดังกล่าวก่อนหน้านี้เป็นถนนที่ชาวบ้านใช้เดินไปกรีดยางพารา แต่เมื่อเห็นว่าจุดดังกล่าววิวทิวทัศน์สวยมีธรรมชาติโอบล้อมมากมาย เห็นวิวไกลสุดลูกหูลูกตา จึงต้องการที่อยากจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมต่อถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน จึงได้ทำเรื่องของบและทำหนังสือขออนุญาตป่าไม้ ก่อนเปิดการประมูลและดำเนินการก่อสร้าง จุดชมวิวควนไอ้กวาง (ถ้ำวังพระยาพิชัยสงคราม) การเดินทางขึ้นชมต้องเดินทางขึ้นค่อนข้างชันและคดเคี้ยว ระยะทางถึงจุดชมวิวประมาณ 1 กิโลเมตร ถนนลาดด้วยปูนซีเมนต์ตลอดสาย มีลานจอดรถด้านบน ที่พักรถ 5 จุด อาคารต้อนรับนักท่องเที่ยว 1 หลัง ห้องน้ำ 1 หลัง ด้านบนจุดชมวิวมีการตกแต่งตามจุดต่างๆ มีโต๊ะ เก้าอี้ปูนสำหรับนั่งพักผ่อน เก้าอี้ชิงช้า ซุ้มสำหรับถ่ายรูป อีกหลายจุด ซึ่งสภาพขาดการดูแลหญ้าขึ้นรกและทรุดโทรม

ADVERTISMENT

นายนพดล จิตรเพชร ชาวบ้านในพื้นที่ ต.หนองบัว กล่าวว่า ในระหว่างการก่อสร้างทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก็เดินทางเข้าออกตรวจตราผ่านไปผ่านมา วนเวียนมาดูปีละครั้งสองครั้ง เพราะพื้นที่อีกฝั่งเป็นพื้นที่เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งก็ไม่ได้พูดหรือทักท้วงแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ของชุมชน ชุมชนใช้อยู่ ป่าไม้มีแผนมารังวัดที่ให้เรียบร้อย ตรงไหนที่ชุมชนใช้เขาก็ทำให้ ตนเองก็เดินรังวัดตามหลังป่าไม้ ตอนที่เขามารังวัด เขามาดู ตนเองยังถามว่าเขามาทำอะไร เขาบอกว่ามาดูป่าเฉลิมพระเกียรติ แต่หลังจากก่อสร้างเสร็จสิ้น โดนป่าไม้ฟ้องข้อหาบุกรุกป่ากับทาง อบต.หนองบัว ในที่สุดศาลตัดสินมาตรา 157 กับนายสมชาย สงรักษ์ นายก อบต.หนองบัว เพียงคนเดียว ตนเองอยากสะท้อนไปยังป่าไม้ให้ช่วยปลดล็อกให้สถานที่ตรงนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เพราะผลประโยชน์มันเกิดกับชาวบ้านและชุมชนมาก เพราะรายได้มาจากการขายของ ตนเองมานอนบ่อย เพื่อนที่เห็นก็บอกว่าทำไมไม่เปิด ซึ่งตนบอกว่า เปิดไม่ได้เพราะป่าไม้มีปัญหาถูกร้องเรียน ซึ่งตามที่ตนเข้าใจ ป่าไม้อยากให้ แต่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น ทำให้ป่าไม้ต้องดำเนินการของเขา เขาอยากให้ อยากให้ชุมชนอยู่ได้ สิ่งไหนที่ชุมชนอยู่ได้เขาอยากจะให้

ขณะที่ นายยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต (ป.ป.ช.ตรัง) กล่าวว่า ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนมายัง ป.ป.ช.จุดดังกล่าวสร้างเป็นจุดชมวิวกว่า 5 ล้านบาท ก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ยังไม่สามารถใช้งานได้ สืบเนื่องจาก ป.ป.ช.ภาค 9 มีนโยบายให้ ป.ป.ช.ตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการทิ้งร้างต่างๆ ในจังหวัดตรังซึ่งปรากฏมีเยอะแยะมากมาย ซึ่งวันนี้ ลงพื้นที่ อบต.หนองบัว พบว่าโครงการดังกล่าว “ไม่ได้ทิ้งงาน ไม่ได้ทิ้งร้าง” ปรากฏว่าเป็นโครงการที่ทาง อบต.ได้รับเงินสนับสนุนจากกรมการส่งเสริมท้องถิ่น 5 ล้านกว่าบาท มาก่อสร้างถนนและจุดชมวิว แต่ปรากฏว่าเมื่อสร้างแล้วเสร็จ ป่าไม้ได้เข้าแจ้งความว่าทาง อบต.ได้บุกรุกป่าไม้ ทำให้ อบต.ไม่สามารถเข้าไปบริหารจัดการต่อได้ และโดนดำเนินคดีตามมาตรา 157 ของพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา ซึ่งทาง ป.ป.ช.จะประสานข้อมูลไปยังจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรบ้าง ว่ามีการบุกรุกจริงหรือไม่อย่างไร ซึ่งทาง อบต.ชี้แจงข้อมูลว่าได้ทำการขออนุญาตป่าไม้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อาจจะขอผิดโครงการ ผิดตำแหน่ง หรือผิดจุดหรือไม่อย่างไร ก็จะไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ ทราบว่า ตอนนี้กำลังตั้งสอบการละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐอยู่ว่าใครประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่อย่างไร ในการขอไปเข้าสร้างอาคารและก็ไม่ได้ขออนุญาต

และข้อสังเกตของประชาชนก็คือ โครงการก่อสร้างดังกล่าวใช้เวลาก่อสร้างเป็นเวลาปีสองปี ทำไมป่าไม้ไม่เข้ามาดำเนินการประสานข้อมูลพิจารณายับยั้งโครงการก่อนที่จะมีการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ ซึ่งทำให้รัฐเสียหาย ชาวบ้านมองว่า เงินก็เป็นเงินของรัฐ พื้นที่ก็เป็นพื้นที่ของรัฐ หน่วยงานที่สร้างก็เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่กลับสร้างเสร็จแล้วก็ไม่ได้ใช้ ทราบว่า ทาง ป.ป.ช.ส่งไปยังพนักงานสอบสวน สภ.รัษฎา ดำเนินคดีกับทางนายก อบต.หนองบัว ซึ่งทางตำรวจแจ้งว่าได้ดำเนินคดี แจ้งข้อกล่าวหา ส่งฟ้องไปยังอัยการคดีอาญาภาค 9 แล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image