อุทัยธานี - หนุ่มนายหน้าขายรถขับรถขนเงิน 4.2 ล้าน เสียหลักพุ่งลงสระน้ำวัด อ้างเงินจมน้ำแต่เจอแค่ 5 แสน ด้านเจ้าของเงินตัวจริงไม่เชื่อ ขอวัดสูบน้ำหาเงิน หาความจริง
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 14 กันยายน ที่จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันนี้ มีชายหนุ่มชาวอำเภอบ้านไร่ ได้ขับรถกระบะเสียหลักลงข้างทางก่อนตกลงไปในสระน้ำหน้าวัดห้วยขานาง เขตพื้นที่หมู่ 1 ตำบลหนองยาง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี โดยคนขับรถระบุว่า ในรถมีเงินสดจำนวน 4 ล้าน 2 แสนบาทที่ใส่ไว้ภายในรถจมน้ำไปด้วย
จนทำให้ทางผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องมาช่วยกันงมหาเงินจำนวนดังกล่าวกันตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงกลางดึกที่ผ่านมา 21.00 น. แต่ก็ยังได้เงินไม่ครบตามจำนวนที่กล่าว โดยพบเงินที่อยู่ภายในรถและในกล่องกระดาษที่ลอยน้ำ รวมแล้วประมาณ 500,000 บาท
แต่ทว่าเงินจำนวน 4,200,000 บาทนี้ เจ้าของตัวจริงคือ หญิงสาวชาวจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งขณะนี้ยังคงนั่งรอเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่มาช่วยกันอาสาลงไปงมหาเงินให้กันอย่างเต็มที่ ก่อนตัดสินใจใช้เครื่องน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 2 ตัว สูบน้ำออกจากสระลูกนี้ ซึ่งมีขนาดเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ความลึกประมาณ 3 เมตร ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาสูบน้ำกันไปจนถึงช่วงเช้าน้ำถึงจะหมดสระ
โดย นางสาวสาวิตรี อายุ 42 ปี ชาวจังหวัดนครสวรรค์ เจ้าของเงิน เล่าว่า เงินก้อนนี้เป็นเงินที่ขายรถพ่วง 18 ล้อได้ ซึ่ง นายธงชัย อายุ 45 ปี นั้นเป็นนายหน้าขายรถคันดังกล่าวให้ตนเอง โดยขายรถให้ได้เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา จำนวนเงิน 4.2 ล้านบาท โดยทางนายธงชัยฯ นั้นนัดกับตนเองว่าจะนำเงินมาให้ตนเองวันนี้แต่ไม่ได้ระบุเวลา จนมาทราบว่ารถของนายธงชัยประสบอุบัติเหตุที่หน้าวัด และแจ้งว่าเงินทั้งหมดก็จมน้ำไปด้วย ซึ่งเบื้องต้นนั้นงมได้เงินมาแล้วจำนวน 500,000 บาท แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ตนก็มีข้อสงสัยอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นรถคันที่นายธงชัยขับมานั้นก็ไม่ใช่รถที่นายธงชัยนั้นใช้ขับอยู่เป็นประจำ
“ส่วนสาเหตุที่นายธงชัยอ้างว่าเงินจมน้ำไปได้นั้น ทางในธงชัยได้อ้างว่าตอนที่ขับรถมานั้นรถไม่ค่อยดีเลยเปิดกระจกรถขับ พอรถพุ่งตกลงไปในสระเลยทำให้กล่องที่บรรจุเงินมาจำนวน 2 กล่องนั้นจมน้ำไปด้วย ซึ่งเบื้องต้นก็ยังมีความแคลงใจ กับเหตุการณ์ในครั้งนี้และไม่มั่นใจว่าสิ่งที่นายธงชัยพูดนั้นจะเป็นความจริงทั้งหมด ซึ่งคงต้องรอดูว่าหลังจากสูบน้ำจนหมดสระแล้วนั้นจะมีเงิน 3,700,000 บาทอยู่ที่ก้นสระจริงหรือไม่” นางสาวสาวิตรีกล่าว
ด้าน นายภารดร อายุ 39 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำหนองยาง กล่าวว่า หลังเกิดเหตุก็ได้ลงพื้นที่มาก็พบว่ามีทางพระสงฆ์และชาวบ้านนั้นกำลังช่วยกันนำคนเจ็บออกมาจากรถ ซึ่งตอนนั้นเห็นว่าอาการไม่ค่อยดี ก็ได้มีการแจ้งประสานให้นำตัวส่งโรงพยาบาลหนองฉาง ก่อนส่งตัวกลับไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบ้านไร่ ซึ่งตอนนั้นหลังจากที่ทาง เจ้าของรถกระบะ ผู้บาดเจ็บได้แจ้งว่ามีเงิน 4 ล้านกว่าบาทตกลงไปในน้ำ ก็ได้มีการช่วยกันหา ซึ่งหลังจากที่เดินหากันและพบกล่องกระดาษจำนวน 2 ลังก็พบว่ามีเงินอยู่ในกล่องนั้น กล่องละ 200,000 บาท ที่ลอยน้ำอยู่ หลังจากนั้นก็ได้มีการแจ้งประสานให้ทางกู้ภัยและนักประดาน้ำมาช่วยกันงมรถและงมหาเงินจำนวนดังกล่าว ซึ่งก็ได้พบเงินที่อยู่ในรถอีกประมาณ 100,000 บาท แบงก์พันอีก 7 ใบ พร้อมกระเป๋าสตางค์ โดยหลังจากที่นำรถขึ้นมาได้ก็พบเงินแบงค์พันอีกจำนวน 4 ใบ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะยังคงมีการช่วยกันงมหาเงินการจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
ด้าน นายโกมล อายุ 62 ปี ตำรวจอาสา ตำบลทุ่งโพ หนึ่งในคนที่ มาช่วยงมหาเงิน ได้เปิดเผยว่าตนเองนั้นได้เดินทางมาช่วยในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ซึ่งตั้งแต่เวลาดังกล่าวจนถึงขณะนี้ทุกคนที่มาช่วยกันงมก็ยังไม่มีใครพบเงินเพิ่มเติม ซึ่งก็คงต้องรอดูว่าหลังจากสูบน้ำออกจนหมดสระแล้วนั้นจะมีเงิน อยู่ที่ก้นสระอีกหรือไม่