(23 ก.พ.59) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. นายสุพจน์ โกวิทยา รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและศิษย์เก่าสัมพันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางมาเยี่ยมนายอู้เส็น จันทร์หลีหมัด อายุ 45 ปี ชาวบ้านพังสาย ตำบลกระดังงา อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา หรือบังยาว พังสาย ฮีโร่ที่ให้ความช่วยเหลือ นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่มาทำกิจกรรมหาดมหาราช อำเภอสทิงพระ และจมน้ำบริเวณชายหาดได้รับบาดเจ็บ 12 คน เสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้มีผู้โพสต์เฟซบุ๊กถึงบังยาว ว่าเป็น “ฮีโร่ที่ถูกลืม” เนื่องจากไม่มีการพูดถึงเหตุการณ์และบังยาวแต่อย่างใด ทำให้วันนี้ทั้งสื่อมวลชน รวมถึงตัวแทนจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้เข้าพบบังยาว โดยนายสุพจน์ เป็นตัวแทนมอบกระเช้าผลไม้แสดงความขอบคุณในเบื้องต้น พร้อมสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะมีการจัดการแสดงความขอบคุณจากนักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ในวันที่ 13 มีนาคมนี้
จากนั้น บังยาวได้นำคณะที่มาเยี่ยมในวันนี้ไปชี้จุดที่เกิดเหตุพร้อมเล่าว่าเหตุการณ์ในวันนั้นสภาพน้ำเพิ่งผ่านพ้นสถานการณ์คลื่นลมแรง นักศึกษาจมน้ำอยู่ห่างจากฝั่ง 20-30 เมตร สภาพน้ำเป็นแอ่งน้ำวนจากสภาพคลื่นลม มีน้องๆ จมน้ำกระจัดกระจายในทะเล ตนขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไป มีคนเรียกให้ช่วยเนื่องจากตนประกอบอาชีพประมง ทั้งยังผ่านการฝึกอบรม อปพร.มา จึงได้ถอดเสื้อและตะโกนให้คนที่อยู่บนฝั่ง หาเสื้อชูชีพ พร้อมเชือก มาให้ และได้ใช้ไม้ไผ่ให้น้องที่อาการไม่หนักเกาะเอาไว้แล้วช่วยนักศึกษาผู้หญิงที่จมน้ำขึ้นมา จากนั้นทยอยช่วยนักศึกษาคนอื่นๆ ขึ้นมาเรื่อยจนเกือบหมดแรง แต่ไม่ได้คิดอะไรมากแม้เมื่อลงไปในทะเลจะรู้แล้วว่าสภาพน้ำเป็นน้ำวน แต่ต้องการช่วยนักศึกษา เพราะเชื่อว่าด้วยสภาพน้ำหากไม่ลงไปช่วย นักศึกษาจะเสียชีวิตหลายคนแน่นอน โดยบอกว่าไม่ได้หวังว่าใครจะเห็น หรือยกย่อง เพียงแต่อยากช่วยเหลือเด็กๆเท่านั้น
ทั้งนี้ นายสุพจน์กล่าวว่า จากการสอบถามทราบว่ามีกลุ่มคนที่ได้ให้ความช่วยเหลือนักศึกษารวม 7 คน ทั้งที่บริเวณชายหาดและที่โรงพยาบาล ซึ่งได้มีการแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยหลังจากนี้มหาวิทยาลัยเองได้เร่งรัดหามาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เหตุที่เพิ่งจะเดินทางมาขอบคุณพลเมืองดีนั้น เป็นเพราะช่วงแรกยังคงเน้นในการดูแลผู้บาดเจ็บ รวมถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ได้มัการเปิดเพจในเฟซบุ๊กเพื่อระดมทุนให้ความช่วยเหลือ ทั้งครอบครัวน้องที่บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย จนถึงขณะนี้นักศึกษาที่บาดเจ็บนั้นอาการดีขึ้นจนออกจากโรงพยาบาลได้ทั้งหมดแล้ว ยังคงเหลือเพียงนางสาวขนิษฐา ทองรอด หรือน้องส้มโอ อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ยังคงรักษาตัวในห้องไอซียู โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โดยยังไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้ยารักษาความดันโลหิต ทีมแพทย์ยังคงให้การดูแลอย่างใกล้ชิด