น้ำโขงหนองคายลดลงต่อเนื่อง แต่ยังไม่คลี่คลาย ชาวบ้านร่ำไห้ ปีนี้น้ำมาเร็ว รับมือไม่ไหว

ระดับน้ำโขงในยามค่ำคืนมีแนวโน้มดีขึ้น ชุมชนวัดธาตุที่ถือเป็นจุดที่ตลิ่งมีระดับต่ำและมีการวางกระสอบทรายทำเป็นบังเกอร์กันน้ำไว้ ระดับน้ำโขงเริ่มต่ำกว่าเล็กน้อย เทศบาลติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเร่งสูบน้ำที่ท่วมออกจากตัวเมือง บางจุดยังมีการงดจ่ายไฟ พบมีบางครอบครัวยังต้องนอนที่เต็นท์เป็นคืนที่ 4

เมื่อวันที่ 17 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมภายในตัวเมืองหนองคายยังอยู่ในระดับสูง ถนนประจักษ์ศิลปาคม ที่เป็นถนนสายหลักภายในเขตเทศบาลน้ำยังท่วมสูง 30-50 ซม. ห้ามรถทุกชนิดสัญจร มีเพียงเรือที่เข้าไปส่งอาหาร และส่งผู้ที่ต้องการกลับเข้าไปบ้านเรือน สำหรับจุดที่มีระดับน้ำท่วมสูง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคต้องงดปล่อยกระแสไฟฟ้าชั่วคราว ทำให้ในจุดนั้นค่อนข้างมืด โดยเฉพาะหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองหนองคายและบริเวณใกล้เคียง

ส่วนระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคายยังคงลดลงอย่างช้าๆ ล่าสุดวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ เมื่อเวลา 04.00 น.ที่ผ่านมา มีระดับอยู่ที่ 13.24 เมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระดับตลิ่ง 1.04 เมตร และยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง

บริเวณชุมชนวัดธาตุ ซึ่งเป็นจุดที่ตลิ่งมีระดับต่ำและเป็นจุดที่มีการวางกระสอบทรายทำเป็นบังเกอร์กันน้ำไว้ ระดับน้ำโขงเริ่มต่ำกว่าตลิ่งเล็กน้อย และได้เห็นพื้นของลานวัฒนธรรมริมฝั่งแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยโคลนตมแล้ว เทศบาลเมืองหนองคายได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่ม ก่อนเร่งสูบน้ำที่ท่วมออกจากตัวเมืองลงแม่น้ำโขงให้มากที่สุด คาดว่าจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมในตัวเมืองหนองคายค่อยๆ ลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี แม้ว่าระดับน้ำจะเริ่มลดลง แต่ยังมีบางครอบครัวในชุมชนใต้ธาตุ ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย ยังต้องอาศัยเต็นท์ของเทศบาลเมืองหนองคาย เนื่องจากน้ำยังท่วมบ้านและมีดินโคลนอยู่ภายในบ้าน และไม่ต้องการไปอยู่ที่ศูนย์อพยพเนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินที่ขนย้ายจากบ้านมาไว้ที่เต็นท์ รวมถึงเป็นห่วงสัตว์เลี้ยงด้วย

น.ส.อัมราพร อายุ 34 ปี ชาวชุมชนใต้ธาตุ เล่าให้ฟังด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า นอนอยู่ที่เต็นท์เป็นวันที่ 4 แล้ว บ้านของตนอยู่ในจุดที่ตลิ่งมีระดับต่ำ น้ำโขงเอ่อท่วมอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำป่าไหลเข้าบ้าน กันไว้ไม่ได้ ทั้งเตียงนอนและสิ่งของอีกหลายอย่างขนออกมาไม่ทัน ขนออกมาได้เพียงตู้ใส่เสื้อผ้า กับสิ่งของเครื่องใช้อีกเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น

น.ส.อัมราพรกล่าวว่า ภายในบ้านอยู่ด้วยกัน 4 คน คือตน สามี และลูกอีก 2 คน ลูกชายคนเล็กอายุแค่ 2 ขวบเท่านั้น ล่าสุดได้กลับเข้าไปดูบ้านน้ำก็ยังท่วมอยู่ มีดินโคลนที่เดินแล้วลื่น ส่วนไก่ที่อยู่ข้างเต็นท์เป็นของอีกคนที่มีบ้านอยู่ติดกันกับบ้านของตน ซึ่งบ้านถูกน้ำท่วมเหมือนกัน

“เมื่อคืนวานแทบจะนอนที่เต็นท์ไม่ได้ เนื่องจากมีฝนตก ลมพัดแรง และมีฟ้าร้อง ปี 2551 ที่เคยมีเหตุการณ์น้ำท่วมหนองคาย ปีนั้นยังรับมือได้ทัน น้ำไม่ได้ขึ้นรวดเร็วเหมือนครั้งนี้ ปีนี้แม้จะมีการวางกระสอบทรายไม่ให้น้ำเข้าบ้านไว้ 4 จุดและกั้นไว้สูงพอสมควรก็ไม่สามารถกั้นน้ำโขงไม่ให้เข้าบ้านได้ น้ำโขงทะลักเข้าบ้าน

ทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องไห้ ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ครอบครัวก็ไม่ได้มีฐานะ บ้านและสิ่งของภายในบ้านมาเสียหาย ไม่มีกำลังใจ ที่ทำงานก็น้ำท่วม ลูกก็ต้องเลี้ยง” น.ส.อัมราพรกล่าว

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่