สาวออทิสติก วัย 34 ถูกวินมอเตอร์ไซค์ข่มขืนซาดิสต์ แจ้งความตร. ตั้งแต่ปี 63 แต่คดีไม่คืบจนมาเกิดเหตุซ้ำในปี 67 ผู้เสียหายร้องสายไหมต้องรอด ขอให้ช่วยติดตามคดี
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 กันยายน ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 75 ปี แม่ของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ลูกสาว ผู้เสียหาย ซึ่งป่วยเป็นออทิสติก ถูกคนขี่รถวินจักรยานยนต์รับจ้าง ข่มขืนและกระทำอนาจาร เหตุเกิดที่บ้านพักในซอยติวานนท์ 25 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี โดยผู้เสียหายถูกกระทำมาตั้งแต่ปี 2563 เรื่อยมาจนถึงปี 2567 โดยคนร้ายรายเดิม และมีการแจ้งความไปแล้วตั้งแต่ปี 2563 แต่คดีไม่คืบหน้า กระทั่งมาเกิดเหตุซ้ำในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 อีกครั้ง
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เรื่องนี้มีข้าราชการคนหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดนนทบุรี ทำงานอยู่ศาลากลางจังหวัด ประสานความช่วยเหลือมาที่เพจสายไหมต้องรอด ว่า คุณป้าได้ไปขอคำปรึกษาว่าลูกถูกทำอนาจาร ต้องดำเนินการอย่างไร ไม่ใช่ว่าโรงพักจะช้า ป้าเขาได้มีการคุยกับร้อยเวรตลอด แต่ร้อยเวรบอกว่า คดีปี 2563 ตัวเขาไม่รู้ เพราะคนที่ทำได้ย้ายไปแล้ว ครั้งปี 2563 ที่ป้ามาแจ้งความ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่มีการเอาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะเป็นผ้าห่ม ผ้าปูที่นอนไปตรวจพบ DNA มากกว่า 2 คน ก็แสดงว่ามีพฤติกรรมลักษณะรุมโทรม
เมื่อวานตนจึงให้น้องของเพจสายไหม ซึ่งเป็นผู้หญิงมาดูผู้เสียหาย ในขณะเกิดเหตุผู้ก่อเหตุมีการกัดที่หน้าอกของผู้เสียหาย และกัดตรงอวัยวะเพศด้วย จนมีบาดแผลแล้วเขาก็เจ็บจนถึงปัจจุบันนี้ แล้วเดินผ่านหน้าบ้าน ก็ฉุดกระชากเขา ตนว่าไม่เกรงกลัวกฎหมาย ต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายเอกภพกล่าวอีกว่า คือน้องเขาเป็นออทิสติกพัฒนาการช้า ก็เลยไปกระทำกับเขา เขาอยู่กันสองคนแม่ลูก แม่ก็แก่ลูกก็พัฒนาการช้า แล้วก็ไปทำแบบนี้ย่ามใจ กูทำแล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้น ก็ทำๆ ถือว่าเป็นภัยสังคมแล้ว แล้วพฤติกรรมซาดิสต์ไปกัดอะไรต่างๆ มันต้องเอาให้เด็ดขาด คนแบบนี้เอาไปไว้อยู่ข้างในดีกว่าข้างนอก รู้สึกว่าไม่อยากจำ
นางน้อย แม่ของผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม คนร้ายเดินตามไปจนถึงร้านสะดวกซื้อตรงหัวโค้ง คือร้านขนมครก แต่วันนั้นร้านไม่ได้ขาย น้องก็เลยไม่ได้ขนมครกกลับมา จึงเดินกลับบ้าน แต่คนร้ายแอบอยู่ตรงเสาไฟฟ้าซึ่งตรงนั้นมีประตู แล้วก็กระชากน้องเข้าไปเลย แล้วทำร้ายไม่ให้ร้องเพราะเป็นทาวน์เฮาส์ห้องติดกัน
น้องใส่เสื้อยกทรงสีดำเลือดออกก็ไม่เห็น น้องบอกว่าปวดเจ็บแล้วเปิดดู ประมาณวันที่ 28 สิงหาคม ยังเป็นแผลอยู่เลยตนจึงเอาเบตาดีนมาทาให้ น้องก็แสบ วันที่ 4 กันยายน ค่อยไปหาหมอ ค่อยไปบอกหมอแล้วเอายา บอกน้องว่าทาเบตาดีนไปก่อนนะลูก
นางน้อยกล่าวอีกว่า พอวันที่ 4 กันยายน ก็ไปหาหมอตามที่หมอนัด ตนบอกหมอว่าลูกถูกกัดนมหมอก็บอกว่าเขียนรายงานไปแล้ว เพราะตอนนั้นไม่ได้ถอดยกทรงออก เขาใส่ยกทรง ใครจะไปนึกว่ามันจะกัดใกล้หัวนม หลังจากใส่เบตาดีนมาดูแผลมันก็ยุบลงไป แต่แผลยังไม่ปิดยังอักเสบแดง จนวันที่ 4 กันยายนก็ไปเอายาฆ่าเชื้อกับยาแก้อักเสบจากโรงพยาบาลมากิน ซึ่งปกติวันที่ 4 ตนนัดตรวจเรื่องอื่น จึงบอกลูกไปทีเดียวเลยจะได้ไม่ต้องเสียค่ารถหลายเที่ยว เสียเวลาอีก จึงบอกหมอว่าน้องเขาถูกกัดนม เขาปวดมาก หมอก็สอบถามปวดมากไหม แต่ลูกสาวบอกว่าตำรวจบอกให้แจ้งความใหม่ แล้วลูกสาวบอกว่า นี้เป็นการเก็บหลักฐานเพิ่มเติม
นายเอกภพกล่าวอีกว่า น้องเขาถูกกระทำเรื่อยมาจนล่าสุดคือเมื่อเดือนสิงหาคมนี้เอง ป้าเขาจึงร้อนใจ อยากให้เร่งดำเนินคดี เพราะกลัวความไม่ปลอดภัย คนร้ายรู้ว่าจะเอาเรื่องเขา เดี๋ยวจะมาทำร้ายอีก ป้าก็กังวลทั้งลูกทั้งตัวป้า แล้วพฤติกรรมย่ามใจมากก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำอีก พอไปปรึกษาข้าราชการท่านนี้ เขาจึงบอกให้มาที่เพจสายไหมต้องรอด เดี๋ยวเขาจะได้ช่วยประสานงานให้ พอตนรับเรื่องเสร็จก็ประสานผู้กำกับ สภ.รัตนาธิเบศร์ เขาข่มขู่ผู้เสียหายด้วย พฤติกรรมแบบนี้เขาเรียกว่าภัยสังคม ไปกระทำเขาลักษณะซาดิสต์ หลังก่อเหตุก็มีการข่มขู่ผู้เสียหาย ห้ามบอกใครถ้าบอกกูจะฆ่าให้ตาย กูจะทำร้าย ผู้เสียหายด้วยความที่มีพัฒนาการช้าเขาก็หวาดกลัว เพราะฉะนั้นคนอย่างนี้ต้องจัดการให้เด็ดขาด เอาไว้ข้างนอกไม่ได้ ภัยสังคมชัดๆ เลย
ฝากพี่น้องประชาชนใครที่เจอพฤติกรรมแบบนี้ แล้วไม่ได้รับความเป็นธรรมต่างๆ ก็ติดต่อไปที่เพจสายไหมต้องรอด คือตนไม่ชอบเลยพฤติกรรมแบบนี้ ข่มขืนทำร้ายคนไม่ชอบ
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี กล่าวว่า เดี๋ยวจะให้ร้อยเวรสอบปากคำเพิ่มเติมจะได้จบ และเขาอาจจะไม่ได้ทำกับผู้เสียหายรายนี้รายเดียว ถ้าเกิดย่ามใจอาจจะไปก่อเหตุกับคนอื่นได้อีก ถือเป็นบุคคลอันตราย เดี๋ยวตนจะเร่งดำเนินการในกระบวนการของการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงผลทางนิติวิทยาศาสตร์ต่างๆ ผลการตรวจร่างกาย ผลการตรวจ DNA ซึ่งตำรวจได้เก็บหลักฐานมาส่วนหนึ่งแล้ว จะทำคดีให้สมบูรณ์และรวดเร็วที่สุด
