ชาวสวนโอด น้ำท่วมทำลำไยยืนต้นตาย กระทบแล้วกว่า 20,000 ไร่ วอนรัฐเร่งเยียวยา
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมนางมัฑนา ธรรมใจ เกษตรอ.สารภี และเจ้าหน้าที่อำเภอ ลงพื้นที่บ้านปิงน้อง ต.สันทรายมหาวงศ์ เพื่อสำรวจความเสียหายพื้นที่ปลูกลำไย หลังถูกน้ำท่วมขังนานกว่า 1 เดือนและยังมีน้ำท่วมขังตามสวนลำไยของเกษตรกรอยู่
นายเจริญ เผยว่า จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่ปลูกลำไยมากที่สุดของประเทศ 448,000 ไร่ ประสบอุทกภัย จำนวน 22 อำเภอ 151 ตำบล 859 หมู่บ้าน ส่งผลให้พื้นที่ปลูกลำไยของประชาชน ถูกน้ำท่วมเสียหายแล้วกว่า 19,581 ไร่ ส่งผลให้ต้นลำไยเริ่มทิ้งใบ ยืนต้นตาย เนื่องจากถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน
ด้านการช่วยเหลือเยียวยา รัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือแก่ชาวสวนลำไย เป็นจำนวนเงิน 4,048 บาท/ไร่ แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ซึ่งลดขั้นตอนการพิจารณาช่วยเหลือ 65 วันจากเดิม 90 วัน โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน จากผลกระทบดังกล่าว ปีหน้าคาดว่าจะมีผลผลิตลำไยลดลง 45,000 ตัน หรือ 10% ของผลผลิตทั้งหมด
ส่วนการฟื้นฟูต้นลำไยหลังน้ำลด ให้เกษตรกรตัดแต่งกิ่งที่เสียหาย และใช้ไม้ค้ำยันไว้ให้ต้นตั้งตรง ในช่วง 5 วันแรก ไม่ควรรดน้ำหรือใส่ปุ๋ย และไม่เหยียบย่ำบริเวณราก เพื่อให้ต้นลำไยฟื้นตัวโดยเร็ว จากนั้นให้น้ำแต่น้อย แล้วจึงเริ่มให้ปุ๋ยและฮอร์โมนเพื่อเร่งการตเจริญเติบโตของราก จากนั้นทำการปรับปรุงสภาพดินด้วยเชื้อไตรโครเดอร์ม่า ในอัตราส่วน 1 กิโลกรัม ผสมรำละเอียด 5 กิโลกรัม ปุ๋ยอินทรีย์ 100 กิโลกรัม ใช้รองก้นหลุม หว่าน หรือโรยรอบบริเวณโคน ในปริมาณ 3-5 กิโลกรัม/ต้น หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือโทรศัพท์หมายเลข 0-5311-2478-79
ด้าน นายกิตติ์พันธ สุนันต๊ะ ชาวสวนลำไย บ้านแม่ข่องเหนือ ต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง กล่าวว่า ตนปลูกลำไยรวมกว่า 150 ต้น บนพื้นที่ 7 ไร่ แต่น้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตร ทำให้ต้นลำไยอายุ 4-8 ปี ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด เพราะท่วมตั้งวันที่ 23 กันยายน – 10 ตุลาคม 2567 ส่วนสวนลำไยของ ต.แม่ก๊า ถูกน้ำท่วมกว่า 500 ไร่ ส่วนใหญ่เพิ่งตกแต่งกิ่งเตรียมลำต้น เพื่อทำลำไยนอกฤดู แต่ต้องมายืนต้นตายเสียก่อน ทำให้ต้องตัดทิ้งและใส่ปุ๋ยฮอร์โมนต้นลำไยที่เหลือ รวมค่าใช้จ่ายกว่า 20,000 บาท ก่อนหน้านี้ได้ขอสินเชื่อสถาบันมาลงทุนสวนลำไยกว่า 300,000 บาท จึงขอให้รัฐบาลชดเชยเยียวยา โดยจัดหากล้าลำไยให้ใหม่ สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และพักชำระหนี้ 3-5 ปี เพื่อฟื้นฟูสวนลำไย กลับมาเป็นพืชเศรษฐกิจอีกครั้งด้วย