เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายปราโมศวร์ ตัณฑเศณีวัฒน์ รองประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลว่า โครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟสแรกที่ผ่านมา พบว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพียงระยะสั้น และส่วนใหญ่เงินจะไหลไปสู่กลุ่มทุนใหญ่ เช่น ร้านสะดวกซื้อ และห้างสรรพสินค้า ขณะที่ร้านโชว์ห่วย สถานประกอบการเอสเอ็มอีกลับได้รับประโยชน์จากโครงการนี้น้อยมาก ซึ่งตนเองมองว่าในส่วนของทุนใหญ่มีผลประกอบการดีอยู่แล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มทุนเล็กๆ เช่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ ที่จะทำให้จีดีพีของประเทศไทยเติบโตได้ แต่ปัจจุบันนี้ธนาคารต่างๆ ปล่อยกู้ให้กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอียากมาก รัฐบาลควรจะเข้ามาช่วยเหลือให้เขาสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ เพราะถ้าเอสเอ็มอีเติบโต คนในท้องถิ่นก็สามารถขายของได้กำไรเพิ่มขึ้นรัฐบาลก็สามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
“ขณะเดียวกันในส่วนของการอัดฉีดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานราก โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ถ้าใช้ระบบปัจจุบันนี้บางคนได้เงินมา 10,000 บาท ใช้ไม่ถึงครึ่งเดือนก็หมดแล้ว ดังนั้นอยากให้รัฐบาลมีการแบ่งจ่ายเป็นรายเดือน เหมือนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกำหนดไปเลยว่าให้ใช้จ่ายได้เฉพาะสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นเท่านั้น เชื่อว่าเงินส่วนนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวได้” นายปราโมศวร์กล่าว