ห้างท้องถิ่นอุดร แบ่งขายน้ำมันพืช คนละ 2 ขวด
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ถึงบรรยากาศประชาชนและผู้ประกอบการค้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการ “อาหารประเภททอด” ใช้น้ำมันพืชในการประกอบอาหาร ที่ติดตามข่าวกระทรวงพาณิชย์ออกมาตรการ ควบคุมราคาน้ำมันพืชจากผลปาล์มไม่เกินขวดละ 50 บาท และมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันพืช ทำให้เกิดกระแสซื้อน้ำมันพืชมาตุนไว้ เกรงว่าน้ำมันพืชจะขาดตลาด ซึ่งยังคงหาซื้อได้ตามปกติ
ขณะที่ร้านขายปลีกในชุมชนราคาขยับสูงขึ้นเกินขวดละ 60 บาทแล้ว ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่าน้ำมันพืชจะขยับราคาขึ้นอีก 10 บาท ทั้งประเภทขวดและแกลลอน
นายกัณฑ์พงศ์ สุระวรรณวิจิตร รองประธานหอการค้า จ.อุดรธานี ผู้บริหารห้างเซฟมาร์ท (ค้าปลีกค้าส่งอุดรธานี) เปิดเผยว่า ติดตามสถานการณ์ตลาดน้ำมันพืชของประเทศไทยต่อเนื่อง พบว่าราคาขยับขึ้นช้าๆ จนวันนี้ราคาน้ำมันพืช (มันมันปาล์ม) ราคาขวดละ 50 บาท จากราคาเคยต่ำสุดขวดละ 46 บาท สูงสุดขวดละ 55 บาท ส่วนน้ำมันพืชอื่น อาทิ ถั่วเหลือง ราคาจะสูงขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งวันนี้ราคาขวดละ 53 บาท ทั้งนี้ ราคาที่ขยับสูงขึ้นเกิดจากข่าวสต๊อกน้ำมันพืชต่ำกว่าปกติ จากภาวะภัยแล้งและโรคพืช มาตรการที่รัฐนำออกมาใช้คือ การกำหนดราคาควบคุมและการจำกัดจำนวนซื้อ
“ห้างเซฟมาร์ทอุดรธานีมียอดขายน้ำมันพืชจากปาล์มเดือนละ 4,000 หีบ และน้ำมันพืชจากวัตถุดิบอื่นเดือนละ 3,000 หีบ หลายวันที่ผ่านมาลูกค้ามาซื้อไปปริมาณสูงขึ้นกว่าปกติ พฤติกรรมน่าจะเอาไปเก็บไว้ ทำให้สต๊อกของห้างลดลง อีกทั้งวันนี้รับแจ้งจากเซลส์และตัวแทนจำหน่ายชะลอคำสั่งซื้อล่วงหน้าไปก่อน ห้างจะนำมาตรการจำกัดจำนวนซื้อมาใช้ โดยให้ซื้อได้ครอบครัวละ 2 ขวด
ที่ต้องมีมาตรการนี้เพราะน้ำมันพืชเป็นสินค้าเป้าหมายหลักของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะต้องซื้อน้ำมันพืชทุกราย และในช่วง 1-3 วันจากนี้ไป เป็นช่วงที่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพร้อมใจกันมาจับจ่ายซื้อสินค้า น้ำมันพืชน่าจะไม่เพียงพอกับความต้องการ” นายกัณฑ์พงศ์ระบุ