รวบโจ๋ลั่นไกกลางสวนสาธารณะ เจ็บ 2 ตร.ย้ำ คุมเข้มอาชญากรรม-อุบัติเหตุช่วงปีใหม่

กลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกลางสวนสาธารณะ อ.สะบ้าย้อย ส่งผลให้เยาวชนได้บาดเจ็บ 2 ราย ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา แถลงผลการจับกุม ยึดของกลางอาวุธปืน 2 กระบอก และรถจักรยานยนต์

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม เวลา 10.30 น. ที่สถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พล.ต.ต.เชาวลิต เลี้ยงสุพงศ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พันตำรวจเอก พสิษฐ์ ศานติปรัชญา รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา พันตำรวจเอก คุณิน ชุ่มจำรัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสะบ้าย้อย ได้ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมกรณีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกลางสวนสาธารณะในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา กลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกันที่สวนสาธารณะ ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ส่งผลให้เยาวชนหญิง 2 รายได้รับบาดเจ็บ คือ 1)ด.ญ.ฟาเดีย (สงวนนามสกุล) อายุ 14 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.สะบ้าย้อย ถูกกระสุนปืนบริเวณขาขวา 2 แผล 2) ด.ญ.นูรสาฟิกา (สงวนนามสกุล) อายุ 17 ปี อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านโหนด ถูกกระสุนปืนบริเวณขาซ้าย 1 แผล และสะเอวซ้ายอีก 1 แผล

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา เผยจากการสอบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มวัยรุ่นจาก ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย ซึ่งใช้รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า XMAX 300 สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 2กช 3682 สงขลา เป็นพาหนะ โดยนั่งซ้อนท้ายมาทั้งหมด 3 คน เมื่อขับรถผ่านกลุ่มวัยรุ่นบ้านสำนักเอาะ ต.เขาแดง ที่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน จึงใช้อาวุธปืนที่ซ่อนไว้ในใต้เบาะรถยิงใส่กลุ่มดังกล่าว กระสุนปืนพลาดเป้าและไปถูกผู้เสียหายที่จอดรถอยู่ใกล้บริเวณเกิดเหตุ

ADVERTISMENT

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนติดตามผู้ต้องหา 3 ราย คือ 1. นายสุไฮดี (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ผู้ขับรถจักรยานยนต์ 2. นายธีระยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ใช้อาวุธปืนลูกซอง 3. นายอัสมัน (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. ทั้งสามรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยอ้างว่าขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังขับรถจักรยานยนต์แซงกลุ่มวัยรุ่นบ้านสำนักเอาะ ได้สังเกตว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวท่าทีจะทำร้ายตน จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง ได้แก่ อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด 9 มม. 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา กล่าวต่อว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 และผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เน้นย้ำให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ โดยเน้นป้องกันอาชญากรรมและลดอุบัติเหตุอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการควบคุมการใช้อาวุธปืนอย่างเคร่งครัด ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่และประชาชน โดยได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ใช้อาวุธปืนอย่างถูกต้องตามระเบียบ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน สำหรับประชาชนที่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธปืนในการปกป้องทรัพย์สินของตนเอง ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตั้งจุดตรวจและเฝ้าระวังพฤติกรรมที่น่าสงสัยผ่านกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันการลักลอบพกพาอาวุธปืนผิดกฎหมาย

ADVERTISMENT

ทั้งนี้ การพกพาอาวุธปืน แม้จะได้รับอนุญาตแล้วก็ตาม หากพกพาในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร อาจมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image