ผอ.รพ.แม่สอด ย้ำ สถานการณ์อหิวาตกโรค ปัจจุบันไม่ได้รุนแรง หรือจนกระทั่งเป็นพื้นที่สีแดง
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ผศ.(พิเศษ) นพ.รเมศ ว่องวิไลรัตน์ ผอ.รพ.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโรคอหิวาตกโรคในพื้นที่อ.แม่สอด ว่า ไม่ได้รุนแรงเหมือนแต่ก่อนตามที่เข้าใจกัน ขณะนี้การแพทย์การสาธารณสุข สุขาภิบาล ได้มีการพัฒนาไปมากกว่าแต่ก่อน ทำให้ความน่ากลัวของโรคนี้น้อยลง สามารถควบคุมรักษาโรคหายได้รวดเร็วตามที่มีข่าว ทางการสาธารณสุขได้บูรณาการร่วมกับทางปกครองและผู้ประกอบการ นักธุรกิจ ได้ร่วมกันวางระบบของสุขาภิบาล การประปา ควบคุมกำกับร้านอาหารตรวจสอบดูแลความสะอาดรวมถึงตลาดสดให้ได้ตามมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในอำเภอแม่สอด และที่มาจากต่างพื้นที่ หากช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการอย่างน้อยก็จะช่วยสะท้อนให้สังคมสร้างความเชื่อมั่น ว่ามีความปลอดภัยด้านสุขภาพต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวที่จะมาอำเภอแม่สอดและจังหวัดตาก ซึ่งตนเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าง สิ่งเหล่านี้จะสะท้อนไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ ที่จะต้องพัฒนาในอนาคตต่อไป
ผศ.(พิเศษ)นายแพทย์รเมศ กล่าวว่า มีออกมาว่า จังหวัดชายแดนเป็นพื้นที่สีแดงซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือจังหวัดตากก็อาจจะเป็นพื้นที่อำเภอแม่สอด และอีก 4 อำเภอที่ติดชายแดน คือมีความเสี่ยงของการแพร่ระบาดฯ ซึ่งก็คิดว่ามีความเสี่ยงต่อผลกระทบภาพรวมของเศรษฐกิจในพื้นที่บางจังหวัดก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวด้วย โดยตนได้พบกับผู้ป่วยคนหนึ่งกับญาติพูดถึงอำเภอแม่สอด จนไม่กล้ารับประทานอาหาร และถึงกับไม่กล้าลงจากรถเพราะกลัวโรคติดต่อซึ่งเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้ป่วยคนนี้ เรื่องนี้เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความไม่เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ในฐานะที่ตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่มีหน้าที่ดูแลเรื่องของสาธารณสุข ทั้งทางด้านป้องกันรักษา และทำงานอยู่แม่สอด จ.ตากมาหลายปีมีความตั้งใจไม่อยากจะให้กระทบต่อเศรษฐกิจของแม่สอด
ทางด้านข่าวจากฝ่ายความมั่นคงด้านชายแดนแจ้งว่า 1. ยอดผู้ป่วยนอกที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลฉะเวโก๊กโก่ จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมาตั้งแต่ 1 – 27 ธ.ค. 67 รวมทั้งสิ้น 761 คน ผู้ป่วยในเข้ารับการรักษาโรงพยาบาลชเวโก๊กโก่ตั้งแต่วันที่ 1- 25 ธ.ค. 67 ยอดเดิม 200 คน หายป่วยออกจาก รพ. 160 รายคงเหลือจำนวน 40 ราย สวนความช่วยเหลือล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 67 ทางหน่วยงานสาธารณสุขของไทยมีแผนเดินทางไปสนับสนุน การตรวจสอบเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่บ้านชเวโก๊กโก่โดย สนับสนุนนำเกลือ ยาและเวชภัณฑ์
สำหรับผู้ในเขตไทยมีทั้งหมด 4 คน ชาย 2 หญิง 2 คน แบ่งเป็นชาวไทย 2 ชาวพม่า 2 คน ยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมอย่างไร