เฒ่าวัย 67 ปี ยิงหลานชายเสียชีวิต เหตุแค้นโดนไล่ออกจากที่ดิน
เมื่อวันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งเหตุยิงกันตายที่บริเวณทุ่งนาทางด้านทิศใต้ บ้านตาเครือ ม.4 ต.ขนุน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบนายวิฑูรย์ โพธิชัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 ม.12 ต.กุดเสลา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นอนเสียชีวิตใกล้ท่อน้ำบาดาล โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์(เเก๊ปยาว) บริเวณหน้าอก เสียชีวิต
ขณะที่ผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมาคือนายมัน อายุ 67 ปี ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปเข้าไปในสวนป่ายางท้ายหมู่บ้าน
จากการสอบถาม ญาติผู้ตาย นางทองพัฒ อายุ 55 ปี ให้การว่าผู้ก่อเหตุเป็นลุงของผู้ตาย ซึ่งก็มีปากเสียงกันเรื่อยมา โดยผู้ตายนั้นมักจะมาบอกให้ผู้ก่อเหตุได้ย้ายออกจากที่ดินบริเวณดังกล่าว เนื่องจากว่าเป็นที่ดินของแม่ตน ซึ่งยายได้ยกให้หลังเสียชีวิต โดยผู้ก่อเหตุได้ปลูกกระท่อมพักอาศัยอยู่ข้างๆบ้านหลังดังกล่าวมานานแล้ว ทั้งนี้เมื่อประมาณวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมาผู้ตายได้พาเพื่อนมาช่วยรื้อบ้านยายซึ่งปลูกไว้ข้างกระท่อมผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็คาดว่าจะเป็นเรื่องนี้ที่เป็นมูลเหตุให้เกิดเรื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการกดดันของเจ้าหน้าที่โดยระดมกำลังเดินปูพรมพร้อมสุนัขจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และใช้โดรนบินค้นหาทางอากาศ เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาทางอากาศก็พบสิ่งต้องสงสัย เมื่อทำการขยายภาพจึงพบว่ามีชายนอนอยู่ในร่องมันสัมปะหลัง จึงได้วิทยุแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเดินเท้าและชุดสุนักทหารเข้าตรวจสอบ
ซึ่งก็พบผู้ต้องหา นอนหลบเจ้าหน้าที่อยู่ในร่องมันในสภาพอิดโรย เนื่องจากนอนตากแดดมานานกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร โดยอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบซ่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัว นำมาทำแผนประกอบคดียังจุดเกิดเหตุ
เบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่า ที่ยิงไปนั้นเนื่องจากผู้ตายชอบนำอาวุธขวานมาข่มขู่ตนเป็นประจำ เพื่อให้ตนนั้นได้ย้ายออกจากที่ดินแปลงนี้ โดยผู้ตายมักอ้างว่าที่ดินแปลงนี้เป็นของแม่ผู้ตาย วันนี้ตนนั้นทนไม่ไหวจึงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ( ปืนแก็ป ) ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป