แม่หนุ่มอุดรฯ ร่ำไห้ดีใจ ลูกชายถูกฮามาสปล่อยตัว หลังรอข่าวดีนาน 15 เดือน อยากเจอหน้าจะกอดให้หายคิดถึง
จากที่สำนักข่าว CNN รายงานว่า ทางการอิสราเอลระบุว่า จะมีการปล่อย 3 ตัวประกันอิสราเอล และ 5 ตัวประกันไทย ที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ฉนวนกาซา ในวันพฤหัสบดีที่ 30 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ทั้งนี้ ระบุว่า สำนักงานของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเป็นผู้เปิดเผยรายชื่อตัวประกันอิสราเอล 3 รายที่ได้รับการปล่อยตัว และยังยืนยันว่าตัวประกันสัญชาติไทยอีก 5 คน ก็จะได้รับการปล่อยตัวออกมาพร้อมกัน แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อตัวประกันไทยทั้ง 5 รายออกมา ในขณะที่อิสราเอลได้รับรายชื่อของตัวประกันจากฮามาสในวันนี้ ผ่านทางประเทศผู้ไกล่เกลี่ยคือ กาตาร์ และอียิปต์นั้น
อ่านข่าว – ด่วน! อิสราเอล เผย ฮามาส เตรียมปล่อย 5 ตัวประกันไทย 30 ม.ค.นี้
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 มกราคม ส.ต.ท.หญิง มลฤดี มุกดา อายุ 43 ปี นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางาน จ.อุดรธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 194 หมู่ 2 บ้านแสงสว่าง ต.ท่าลี่ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พบกับนางวิวแวว อายุ 53 ปี และนายต่อม อายุ 57 ปี พ่อและแม่ นายวัชระ ศรีอ้วน หรือ ตี๋ อายุ 32 ปี แรงงานไทยในประเทศอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 รวมเวลา 15 เดือนเศษ
เพื่อแจ้งสิทธิประโยชน์ให้ทางครอบครัวตัวประกันได้รับทราบ เนื่องจากนายวัชระไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังมีข่าวว่ากลุ่ม “ฮามาส” ได้ปล่อยตัวประกันแรงงานชาวไทยทั้งหมด 5 คน และคาดว่า 1 ใน 5 คนที่ถูกปล่อยตัวออกมาคงมีนายวัชระรวมอยู่ด้วย เนื่องจากทางครอบครัวได้รับการติดต่อจากเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในอิสราเอล แจ้งข่าวมาเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้สีหน้าทั้งแม่และพ่อของนายวัชระยิ้มแย้มดีใจจนน้ำตาคลอ ที่จะได้พบหน้าลูกชายแบบมีชีวิต
หลังขาดการติดต่อและรอความหวังว่าลูกชายยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ทุกวันที่รอคอยข่าวดีมีแต่น้ำตาแห่งความคิดถึงลูก เมื่อได้ข่าวลูกปลอดภัยจะกลับมาบ้าน ต่อไปจะไม่ให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศอีก พร้อมกับนำรูปลูกชายมากอดและพูดกับรูปลูกชายด้วยความดีใจ เนื่องจากมีความหวังที่จะได้พบหน้ากันและกอดกันให้หายคิดถึง
นางวิวแวว แม่นายวัชระ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.00 น. (29 ม.ค.68) หลังจากตนขอพรจากพระเจ้าเสร็จ หลานสาวก็โทรศัพท์มาบอกว่าคนไทยในอิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกันจะถูกปล่อยตัว 5 คน และหนึ่งในนั้นมีชื่อนายวัชระรวมอยู่ด้วย โดยสถานทูตไทยในอิสราเอลมีเบอร์โทรศัพท์ของหลานสาว จึงแจ้งมาให้รับทราบ แล้วหลานสาวก็โทรมาบอกกับตนว่าเป็นข่าวดีที่ลูกชายตนจะถูกปล่อยตัวออกมา ตนก็ดีใจมากจนน้ำตาไหล
“เป็นน้ำตาแห่งความดีใจที่มีข่าวว่าลูกชายตนจะถูกปล่อยออกมา ตนก็รอมาตั้งแต่เกิดเรื่องประมาณ 15 เดือนกว่า จนพ่อล้มป่วยมา 3 ครั้ง เพราะคิดถึงลูกชาย โชคดีที่ยังสู้รอลูกชายกลับมาบ้าน ก็ถือว่าเป็นข่าวดีมากๆ ของครอบครัว เพราะ 15 เดือนที่ผ่านมาตนกับสามีคิดถึงลูกจนร้องไห้ทุกวัน และสงสารลูก หลานสาวจะได้เจอหน้าพ่อ ครอบครัวจะได้พร้อมหน้ากัน ทั้งที่ลูกไปทำงานไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี”
นางวิวแววเปิดเผยอีกว่า ทุกเช้าตนกับครอบครัวก็จะอธิษฐานขอพรพระเจ้าให้คุ้มครองลูกชายให้อยู่รอดปลอดภัย และได้กลับมาบ้านเร็วๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ตามข่าวลูกของตนและไม่ทอดทิ้ง ทำให้ตนก็มั่นใจอยู่ว่าข่าวดีคงจะชัดเจนที่ลูกชายจะได้ถูกปล่อยตัวออกมา ตอนนี้ตนก็รู้สึกโล่งใจมาก ไม่เหมือนเมื่อก่อน เพราะตนไม่ได้รอแบบลมๆ แล้งๆ เมื่อได้ยินแต่ข่าวร้าย พอมาได้ยินข่าวดีก็โล่งอกมากเลยที่จะได้เจอหน้าลูก ได้กอดลูกแบบมีชีวิต
”ถ้าปล่อยลูกออกมาแล้วจะให้ลูกกลับมาอยู่บ้าน ไม่ให้ไปทำงานที่ไหนอีกแล้ว จะให้ทำงานอยู่ที่บ้านเรา เพราะเรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้ วันนี้มีรอยยิ้มขึ้นมา ไม่เศร้าอีกแล้ว อยากขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่คอยช่วยเหลือ และส่งข่าวดีมาให้รู้ และไม่เคยทอดทิ้งครอบครัวตน เพราะแม้แต่เป็นศพหน่วยงานยังจะต้องช่วยเหลือเอากลับมาบ้านให้สำเร็จ”