ไฟป่าเขาบรรทัด เขตกัมพูชา ลามเข้าฐานทหารพราน นย.ชำราก หนัก เผยมีเสียงปะทุคล้ายระเบิดดังขึ้น ทต.ชำรากนำรถน้ำดับหวั่นกระทบชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. ที่บริเวณฐานกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 534 (ร้อย ทพ.นย.ที่ 534) ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินตราดที่ 3 (บ้านเขาล้าน) บ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด เกิดไฟไหม้ป่าในพื้นที่ป่าฝั่งกัมพูชา ด้านบ้านจอมวย ต.เวียงเวล อ.เวียงเวล จ.โพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา และเกิดลุกลามเข้ามาในพื้นที่ฐานกองร้อย ทพ.นย.ที่ 534 ในระยะห่างประมาณ 1 กม. แต่ในระยะ 800 เมตร จะมีคลองชำรากกั้นขวางอยู่
ในเวลา 13.30 น. รถดับเพลิงของเทศบาลตำบลชำรากที่ได้รับการประสานงานจาก ผบ.ร้อย ทพ.นย.534 เพื่อมาเตรียมพร้อมเพื่อดับไฟป่าหากมีการลุกลามเข้ามาใกล้ฐาน โดยมี ร.ท.ทินวัฒน์ นันทิยะไพบูลย์ ระบุว่า ไฟไหม้มานานกว่า 2 สัปดาห์ และลุกลามมาต่อเนื่อง กระทั่งเช้าวันนี้มีลมแรงและไฟได้ลุกลามเข้ามายังฝั่งไทยอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องสั่งให้ทหารพรานที่ตั้งหน่วยบริเวณเขาบรรทัดได้ป้องกันหน่วยไว้ด้วยการทำทางไฟป้องกันไม่ให้ลุกลามเข้ามาได้ ท่ามกลางกลุ่มควันจำนวนมากที่ปกคลุมเข้ามาพร้อมเพลิงไฟที่เมื่อเผาต้นหญ้าและต้นไม้จะมีเสียงดัง และมีเสียงระเบิดเกิดขึ้นต่อเนื่องซึ่งมีกว่า 4-50 ลูกแล้ว
เวลาประมาณ 14.30 น. น.อ.ชัยรัตน์ คำภิรมย์ หัวหน้าชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 3 บ้านเขาล้าน เดินทางเข้ามาติดตามสถานการณ์ ร.ท.ทินวัฒน์ นันทิยะไพบูลย์ ผบ.ร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 534 บ้านชำราก ได้รายงานสถานการณ์ให้ทราบว่า เพลิงไหม้ได้ไหม้ติดต่อกันมาหลายวันแล้ว แต่ในเช้าวันนี้เกิดลุกลามเข้ามาในพื้นที่ฝั่งประเทศไทย และลามเข้ามาในพื้นที่ที่ตั้งฐานหลายแห่งบนเขาบรรทัดและลุกลามลงมาเชิงเขา และลงมายังบริเวณคลอง แต่ยังไม่ลุกลามเข้ามา
จากนั้น หน.ชค.ทพ.ที่ 3 และเจ้าหน้าที่ของเทศบาลตำบลชำรากได้เดินทางไปยังพื้นที่ไฟไหม้ ระหว่างรออยู่ที่บริเวณคลองปรากฏว่าไฟได้ลุกลามไหม้เข้ามายังบริเวณคลองอย่างรุนแรง ทำให้ไม่สามารถเดินทางไปยังที่อื่นๆ ได้ ทำให้ไฟได้ลุกลามติดต้นไม้ใบหญ้าแห้ง โดยเฉพาะต้นไม้กวาดที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและไฟลุกโชนขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตามแรงลม รวมทั้งมีเสียงของระเบิดดังขึ้นเป็นระยะๆ ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องหยุดอยู่ตรงบริเวณลำคลอง
ต่อมาในเวลา 15.00 น. นางสุนัน ไวยกูล รองนายกเทศบาลตำบลชำราก และเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสถานการณ์เพื่อตรวจสอบดูพื้นที่บริเวณจุดชมวิวยุทธการบ้านชำราก และเข้ามาติดตามสถานการณ์ไฟไหม้บริเวณดังกล่าวด้วย พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ไฟไหม้ในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้านมาหลายวันแล้ว และมีกลุ่มควันปกคลุมในพื้นที่ของประชาชนใน ต.ชำราก ระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ถึงขั้นที่ทำให้ได้รับผลกระทบกับประชาชนอย่างรุนแรง จึงได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นตำบลชำรากเมื่อออกนอกบ้านแล้วให้สวมแมสก์ป้องกัน ซึ่งระหว่างการสัมภาษณ์ก็เกิดไฟลุกไหม้ป่าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งรองนายกเทศบาลได้ระบุความเสียหายว่าในพื้นที่ประชาชนยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น
น.อ.ชัยรัตน์กล่าวว่า สถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นมาจากการจุดไฟของประชาชนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แล้วลุกลามต่อเนื่องมานานกว่า 2 สัปดาห์ตั้งแต่ อ.บ่อไร่ ลุกลามมายัง ต.ท่ากุ่ม อ.เมืองตราด และ ต.ตะกาง ต่อเนื่องมาที่ ต.ชำราก ซึ่งลุกลามมาล้อมฐานปฏิบัติงานของกองร้อย ทพ.นย.ที่ 534 ซึ่งตั้งจุดไว้หลายแห่งบริเวณเขาบรรทัด ทำให้ทหารพรานต้องทำการป้องกันด้วยการทำทางป้องกันไฟไม่ให้ลุกลามเข้ามายังบริเวณฐาน ซึ่งมี 5-6 แห่ง โดยที่ธงชาติไทยที่ติดอยู่แต่ละแห่งยังไม่ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด
ส่วนทหารพรานที่ประจำอยู่นั้นได้มีการสับเปลี่ยนกำลังเพื่อให้แต่ละคนได้มีสุขภาพที่เป็นปกติ ซึ่งระหว่างนี้ในพื้นที่จะป้องกันไม่ให้ไฟไหม้ลุกลามเข้ามาอีกฝั่งของคลอง ซึ่งหากลุกลามเข้ามาได้จะส่งผลกระทบถึงฐานของกองร้อย ทพ.นย.ที่ 534 ได้ นอกจากนี้ในระดับประเทศ ในระดับจังหวัด ได้มีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านในการประชุม JBC และ RBC เพื่อหารือในการป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าขึ้นบริเวณตามแนวชายแดนในอนาคตต่อไป