พ่อแม่ปอนด์ น้ำตาตกใน ไม่เคยรู้ลูกชายอยู่แก๊งโอริโอ้ ขอโทษสังคม วอนลูกกลับตัวเป็นคนดี
กรณีเพจ “อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ” ได้ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมแก๊งโอริโอ้ (Oreo) ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นจากการเล่นเกมไฟว์เอ็ม (FiveM) ที่การเอาพฤติกรรมคล้ายเกมออกมากระทำในชีวิตจริง มีการอัดคลิปทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยกพวกรุมทำร้ายเพื่อนในเกมเพราะปมหึงหวง ใช้ไม้เบสบอลตีศีรษะ จับถอดเสื้อผ้าแล้วให้กินหญ้า หรือแม้กระทั่งเคี้ยวบุหรี่ หนึ่งในแก๊งยังแสดงความคิดเห็นท้าทาย “หนุ่ม กรรชัย” และ “กัน จอมพลัง”นั้น
อ่านข่าว รอดนอนคุก! ศาลให้ประกัน ต้า โอริโอ้-พวก คนละ 1 แสน สั่งห้ามเข้าใกล้เหยื่อ
เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ว่าการอำเภอเกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ดพ่อ-แม่ของ ปอนด์ หนึ่งผู้ก่อเหตุ ได้ให้ข้อเท็จจริงว่า เหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดตนเองไม่ทราบมาก่อน และมาทราบตอนที่เป็นข่าว นอกจากนี้เพิ่งทราบรายละเอียดทั้งหมดที่ลูกชายไปก่อเหตุต่างๆขึ้น และยืนยันว่าพวกตนไม่มีส่วนรู้เห็นกับพฤติกรรมด้วยการกระทำของลูกชายทั้งหมด เนื่องจากลูกชายได้เดินทางออกจากครอบครัวไปเป็นเวลากว่า 6 ปีแล้ว
ครอบครัวปอนด์ กล่าวว่า เขาออกบ้านไป เป็นการตัดสินใจของลูกชายเพียงคนเดียว ไม่ได้มีการปรึกษากันกับครอบครัวเลย และเคยกลับบ้านมาครั้งเดียวในช่วงแรก ๆ เพื่อมาเลือกตั้งผู้นำท้องถิ่นเท่านั้น จากนั้นก็เงียบหายไปติดต่อกันไม่ได้ โทรศัพท์ไปก็ไม่ติดและก็ไม่เคยติดต่อมา ดังนั้นเหตุที่เกิดขึ้นพวกตนไม่น่าจะต้องมีส่วนรับผิดชอบกับพฤติกรรมดังกล่าว เนื่องจากลูกชายบรรลุนิติภาวะแล้ว และก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ใดๆกันอีกเป็นเวลานานแล้ว
ครอบครัวปอนด์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ทราบข่าว รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำได้เพียงขอโทษสังคม และผู้เกี่ยวข้อง ที่ลูกชายไปก่อเหตุทำให้ได้รับผลกระทบและได้รับความเสียหาย ตนทำได้แค่เพียงขอโทษ และเสียใจกับเหตุที่เกิดขึ้ เท่านั้น ส่วนการที่จะให้ตัวนี้เข้าไปรับผิดชอบตนเองคิดว่า น่าจะไม่ใช่เรื่องที่พ่อแม่จะต้องเข้าไปรับผิดชอบ เนื่องจากลูกโตแล้ว และพฤติกรรมดังกล่าวก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับครอบครัว มาเป็นเวลานาน จึงเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ตนก็ได้แต่เสียใจ กับเหตุที่เกิดขึ้น
ครอบครัวปอนด์ กล่าวต่อว่า อยากฝาก ข้อความไปถึงลูกชาย ที่ก่อเหตุว่า พ่อพร้อมที่จะอภัยให้ โดยหลังจากพ้นโทษแล้ว ก็อยากให้กลับมาบ้าน แล้วกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีในสังคม ซึ่งพ่อแม่ก็พร้อมที่จะยอมรับ แล้วเปิดโอกาสให้ กับตัวเป็นคนดี กลับมาอยู่ในพื้นที่ สิ้นพ่อแม่พร้อมเครือญาติ ก็พร้อมที่จะอภัยให้ และคิดว่าแม้แต่สังคมก็คงจะให้อภัย หากจะกลับบ้านแล้วมากลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี หลังจากพ้นโทษแล้วและอยากจะบอกให้ลูกรู้ว่า ยังไงเสียพ่อแม่ก็ยังรักลูก และพร้อมจะอภัยให้เสมอและยินดีต้อนรับ ลูกกลับบ้าน ด้วยความอบอุ่นและความรัก ที่พ่อแม่ยังคงมีให้อย่างไม่เปลี่ยนแปลง