โพลชี้ ดัชนีเชื่อมั่น 14 จว.ใต้ เพิ่มขึ้น แจกหมื่นเฟส2 ทำคนจับจ่ายช่วงตรุษจีนเพิ่ม หนี้ลดลง เงินสะพัดเลือกอบจ. หนุนบ้านเพื่อคนไทยแต่ไม่อยากให้กระจุกแค่ภาคเหนือ
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่าเดือนมกราคม 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2567
ผศ.ดร.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครอบครัว รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ความสุขในการดำเนินชีวิต ฐานะการเงิน การลดลงของหนี้สิน และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
“ปัจจัยบวกที่สำคัญ ปีใหม่มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวจำนวนมาก เพราะมาตรการยกเว้นวีซา (Visa Free) ที่ขยายครอบคลุมกว่า 90 ประเทศ การขยายเส้นทางการบิน และการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้น”
ปลายเดือนมกราคมตรงกับวันตรุษจีนเชื้อสายจีนจำนวนมากได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติ ไหว้บรรพบุรุษ และเฉลิมฉลองปีใหม่จีน มีการจับจ่ายใช้สอยในการซื้อเสื้อผ้าสีสดใสเพื่อใส่ในช่วงวันตรุษจีน และซื้ออาหารคาว หวาน ผลไม้ เพื่อนำมามาไหว้บรรพบุรุษ มีการรับประทานอาหารร่วมกันของเครือญาติและคนในครอบครัว มีการพาครอบครัวไปท่องเที่ยว จึงทำให้มีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจจำนวนมาก
“มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ในโครงการ Easy e-Receipt 2.0 ซึ่งเป็นมาตรการลดหย่อนภาษีประจำปี 68 ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม-28 กุมภาพันธ์ สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท และเมื่อวันที่ 27 มกราคม กระทรวงการคลังเริ่มโอนเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป เสมือนเป็นการได้รับ “อั่งเปา” ของผู้สูงอายุในช่วงวันตรุษจีน ทำให้กลุ่มผู้สูงอายุมีเงินในการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้มีเงินสดหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น” ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าว
ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ความเชื่อมั่นของประชาชนใน 2 เดือน มีการปรับตัวดีขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนโควิด 19 ระบาด ในปี 2562 ซึ่งมีค่าดัชนีความเชื่อมั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 75.5 รัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศต้องพยายามทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น ภาครัฐจำเป็นต้องมีแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวในการกระตุ้นและแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
“เร่งแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนอย่างครอบคลุมและทั่วถึง การช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ถูกเลิกจ้าง การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการพนันออนไลน์ การแก้ปัญหายาเสพติด มีจำนวนมากขึ้นและมีราคาถูก ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย มีการซื้อขายและเสพในสถานศึกษา มิได้เกรงกลัวกฎหมาย” ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าว
รัฐบาลควรนำปัญหาสำคัญมาเป็นวาระแห่งชาติ โดยมีแผนและมาตรการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการลงโทษอย่างเด็ดขาดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย เพราะประชาชนมองว่าธุรกิจสีเทาที่มีอยู่ในทุกวันนี้และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น เป็นเพราะเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปให้การช่วยเหลือและให้ความร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจสีเทา หากรัฐบาลคิดจะแก้ปัญหาอย่างจริงจังโดยการปราบธุรกิจสีเทาให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย รัฐบาลจะต้องจัดการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การช่วยเหลือธุรกิจสีเทาให้หมดสิ้นไปพร้อมกัน
จากการสัมภาษณ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในสิ่งที่ประชาชนคาดหวังและต้องการ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนหนึ่งต้องปิดกิจการ และกิจการบางแห่งต้องปลดพนักงาน เนื่องจากยอดขายลดลงมาก เพราะสินค้าประเภทเดียวกันที่นำเข้าจากจีน และราคาขายต่ำกว่ามีการจำหน่ายในประเทศไทย ทำให้สถานการณ์การแข่งขันด้านราคารุนแรงมาก เสนอแนะให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศให้สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างประเทศได้
ผศ.ดร.วิวัฒน์เปิดเผยว่าได้ติดตามสถานการณ์การเลือกตั้งนายก อบจ.ในหลายพื้นที่ของภาคใต้ พบว่า มีการแข่งขันในการหาเสียงอย่างเข้มข้น มีการซื้อเสียงของระบบการเมืองแบบเดิมเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีเงินสะพัดในแต่ละพื้นที่จำนวนมาก ประชาชนส่วนหนึ่งต้องการความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบอย่างจริงจังกับผู้สมัครที่ซื้อเสียง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญากับผู้สมัคร หัวคะแนน และผู้ที่เกี่ยวข้อง
ประชาชนส่วนหนึ่งมองว่า “โครงการบ้านเพื่อคนไทย” เป็นโครงการที่ดี เพราะทำให้คนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รัฐบาลควรกระจายโครงการบ้านเพื่อคนไทยไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศพร้อม ๆ กัน ไม่ใช่มุ่งทำโครงการเฉพาะในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร
ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวต่อว่า การเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ประชาชนกว่า 70% ไม่เห็นด้วยกับการเปิดกาสิโนถูกกฎหมาย และประชาชนกว่า 80% ไม่เห็นด้วยกับการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย รายได้ที่ภาครัฐได้จากกาสิโนและการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายไม่คุ้มกับปัญหาทางด้านสังคมอีกมากมายที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศ
สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายน 2567 ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของภาคใต้จำนวนมาก ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา 9,000 บาท วอนให้ภาครัฐเร่งรัดขั้นตอนการเบิกจ่ายเงิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถนำเงินไปใช้ดำรงชีวิต