อดีตนักมวยดังอุดร ถูกจับลักทรัพย์ คลั่งยาโชว์พลัง ถีบกำแพงกั้นส้วมห้องขังพังยับ
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังทราบว่า มีผู้ต้องหาเป็นอดีตนักมวยถูกจับคดีลักทรัพย์และเสพยาบ้า โดยขโมยเงิน 600 บาท ที่อยู่ในตะกร้าของร้านขายของชำ พื้นที่ ม.4 ต.หนองไผ่ อ.เมืองอุดรธานี เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดในร้านบันทึกภาพขณะก่อเหตุได้
ร.ต.อ.อุดมโชค เปิดเผยว่า หลังจากชุดสืบสวน สภ.ย่อยโนนสูง เห็นหน้าคนร้ายในคลิปก็รู้ทันทีว่าคนร้ายคือ นายสุวัฒน์ ดำรงชาติ หรือ วัฒน์ อดีตนักมวยที่มีฉายาว่า ธวัชชัย ส.นันทกา อายุ 33 ปี อดีตนักมวยล่าเงินเดิมพันตามงานวัด และบุญประเพณีต่างๆในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตำรวจจึงไปติดตามจับกุมได้ที่บ้านพักช่วงเย็นวันที่ 30 มกราคม ขณะนั่งเสพยาบ้าอยู่ในบ้านจำนวนหลายเม็ด ก่อนควบคุมตัวมาที่ สภ.ย่อยโนนสูง แล้วรีบนำตัวเข้าในห้องควบคุมทันที เพราะเห็นท่าทางไม่ค่อยดี มีอาการตาขวาง เริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง
ร.ต.อ.อุดมโชค กล่าวอีกว่า สักพักนายวัฒน์ก็เกิดอาการวิญญาณนักมวยเข้าสิง ร้องเอะอะโวยวาย และคลุ้มคลั่ง โดยกล้องวงจรปิดหน้าห้องควบคุมได้บันทึกภาพเอาไว้ได้ ขณะนายวัฒน์ มีอาการหลอน รำมวย ชกลม ตีเข่า ฟันศอก และเตะ สุดท้ายได้ใช้เท้าถีบกำแพงปูนที่ใช้กั้นห้องส้วม จนก้อนอิฐบล็อกปูนแตกพังเสียหาย จากนั้นก็ส่งเสียงโวยวาย พยายามนำก้อนปูนที่แตกหักขึ้นมาต่อที่จุดเดิม ตำรวจทำได้เพียงคอยดูอยู่หน้าห้องควบคุม เพื่อความปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพราะอาจจะเกิดการบาดเจ็บเป็นอันตรายทั้งผู้ต้องหาและตำรวจได้ นอกจากเขาจะทำร้ายตัวเอง ถึงจะเข้าไปช่วยเหลือ
ร.ต.อ.อุดมโชค กล่าวอีกว่า นายวัฒน์ร้องเอะอะโวยวาย บางครั้งก็ร้องเพลง รำมวยชกลมอยู่ในห้องควบคุมตลอดทั้งคืน พอวันรุ่งขึ้นยาบ้าสิ้นฤทธิ์ นายวัฒน์ได้สติจึงขอโทษตำรวจในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งตำรวจก็ให้อภัย ทราบว่าเขาชกมวยไทยตั้งแต่อายุ 13 ปี และเลิกชกตอนอายุ 20 ปี จากนั้นก็หายไปจากวงการนักชก กระทั่งมาก่อเหตุลักทรัพย์ร้านค้านำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพจนหมด
ร.ต.อ.อุดมโชค กล่าวต่อว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่คุมตัวออกมาสอบปากคำ และนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” ส่วนผนังกั้นห้องส้วมที่พังเสียหาย ทางตำรวจไม่ได้ดำเนินคดี จะซ่อมแซมเอง เพราะเขาสำนึกผิด ทำไปโดยไม่รู้ตัว หรือขนาดสติเพราะฤทธิ์ยาบ้า ส่วนผู้ก่อเหตุหลังได้สติก็สำนึกผิด และสัญญาว่าจะเลิกเสพยาบ้า หลังจากพ้นโทษออกมาจะเป็นคนดีของสังคม อยากฝากถึงผู้ที่จำหน่ายและเสพยาบ้า ขอให้เลิก ไม่อย่างนั้นต้องถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมาย