จีนเทายังชิล มีเครื่องปั่นไฟ ไม่หวั่นไทยหยุดจ่าย ‘พญาตองซู’ สัญญาณเน็ต 3 บ.ยักษ์ใช้ได้ปกติ

คืบหน้า หลังตัดกระแสไฟเมืองพญาตองซู จีนเทายังชิล เหตุมีเครื่องปั่นไฟ ส่วนสัญญาณเน็ต 3 บริษัทยักษ์ใช้ได้ปกติ แต่ชาวบ้านเดือดร้อนนับหมื่นคน

จากกรณีที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีวาระเร่งด่วนกรณีตัดไฟฟ้าบางพื้นที่ในฝั่งเมียนมาหลังพบเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีมติให้ตัดไฟฟ้า อินเตอร์เน็ต และน้ำมัน รวม 5 จุด ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 5 ก.พ.เป็นต้นไป โดย 1 ใน 5 จุด มีจุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีชายแดนติดกับ อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา ด้วย

เวลา 09.00 น. วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาสังขละบุรี ได้ตัดกระแสไฟฟ้าที่จุดรับมอบพลังไฟฟ้าและพลังงานไฟฟ้า บริเวณจุดติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าแรงสูง ด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามมติที่ประชุมของ สมช.เป็นที่เรียบร้อย

ADVERTISMENT

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เจ้าหน้าที่ไทยจะทำการตัดกระแสไฟบริเวณจุดซื้อขายบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์-เมืองพญาตองซู รัฐมอญ ประเทศเมียนมา แล้วก็ตาม หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามว่าการตัดกระแสไฟในครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อแก็งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจจีนเทา รวมถึงบ่อนกาสิโนที่ตั้งอยู่ในเมืองพญาตองซู หรือไม่

แหล่งข่าวที่อยู่ในพื้นที่ อ.พญาตองซู เปิดเผยว่า การตัดกระแสไฟในวันนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มธุรกิจจีนเทามากนัก เพราะอาคารบ่อนกาสิโน หรือสถานบันเทิงที่มีอยู่อย่างครบวงจรนั้น แต่ละแห่งมีเครื่องปั่นกระแสไฟเป็นของตัวเองอยู่แล้ว

ADVERTISMENT

เมื่อถามว่า สัญญาณโทรศัพท์มีปัญหาหรือไม่ แหล่งข่าวคนเดียวกันตอบว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบแต่อย่างใด เนื่องจากเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือของ 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ไม่ได้ตัดสัญญาณไปด้วย แต่ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่ อ.พญาตองซู ที่มีอยู่กว่า 1 หมื่นคน ส่วนกลุ่มจีนเทากว่า 1 หมื่นคนไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

แหล่งข่าวคนเดียวกันแจ้งให้ทราบเพิ่มเติมว่า หลังจากที่มีการตัดกระแสไฟฟ้าได้ไม่นานนัก พบกลุ่มคนไทยกว่า 10 คน ที่ทำงานอยู่ที่บ่อนกาสิโน เก็บกระเป๋าสัมภาระออกจากบ่อนเพื่อเดินทางข้ามกลับมายังประเทศไทย แล้ว

ด้านผู้ประกอบการค้าชายแดนชาวไทยเปิดเผยว่า มองว่ามาตรการที่เกิดขึ้นถ้าเพื่อนบ้านเข้าใจและอดทนกับมาตรการดังกล่าวร่วมกันก็จะไม่กระทบต่อการขนส่งสินค้า แต่จะกระทบต่อสินค้าที่ทางการห้ามนำเข้าและส่งออกอยู่แล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เพื่อนบ้านก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านและผู้ประกอบการได้เข้าใจด้วยว่ามาตรการร่วมกันตรงนี้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เมื่อเจ้าหน้าที่เมียนมา รวมทั้งผู้ประกอบการเข้าใจ สินค้านำเข้า-ส่งออกทั่วไปก็ไม่น่าจะกระทบ และสามารถประกอบธุรกิจได้ตามปกติ

ผู้ประกอบการค้าชายแดนชาวเมียนมา ที่อาศัยอยู่ฝั่งพญาตองซู เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนแต่อย่างใด ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนยังคงมีกระแสไฟฟ้าที่ผลิตจากโซลาร์เซลล์ ถ่าน และก๊าซ เนื่องจากได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของการดำเนินการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ จึงไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image