ระดมกำลัง เร่งดับไฟป่าเขาคอกช้าง-ฟูจิครบุรี ล่าสุดเสียหายแล้วกว่า 1 พันไร่เชื่อเกิดจากน้ำมือมนุษย์
ความคืบหน้า เหตุไฟป่าบริเวณเขาคอกช้าง ในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ท้องที่รอยต่อระหว่าง ต.ครบุรีใต้ และ ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ที่เริ่มลุกไหม้มาตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568
จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์2568 สถานการณ์ก็ยังไม่คลี่คลาย แม้ว่าเจ้าหน้าที่จากอุทยานแห่งชาติทับลาน สถานีควบคุมไฟป่าทับลาน ฝ่ายปกครองอำเภอ ผู้นำชุมชน และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทับลาน (อส.อส.) และจิตอาสาจากหลายภาคส่วน จะระดมกำลังช่วยกันดับไฟอย่างต่อเนื่องมากว่า 3 วันแล้วก็ตาม
ที่ล่าสุด ช่วงเวลา 13.00 น. วานนี้ (16 ก.พ.) นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงพื้นที่ตรวจสอบ และร่วมอำนวยการดับไฟป่าดังกล่าว ซึ่งทางกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 3 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งกำลังพลทหาร เข้าร่วมดับไฟป่าเพิ่มอีกรวม 30 นาย เพื่อเร่งคลี่คลายสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบัน ไฟที่ลุกไหม้บริเวณสันเขาและไหล่เขา ด้านนอกของเขาคอกช้าง ไม่ได้ลุกลามสร้างความเสียหายเพิ่มเติม และกำลังเริ่มดับมอดลง จนเกือบกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังเหลือในส่วนที่เป็นหุบเขาด้านใน ซึ่งเป็นที่ตั้งหมู่บ้านคอกช้าง ต.ครบุรีใต้ ที่ยังมีไฟป่าลามลงไปในหุบเขาด้านหลังหมู่บ้าน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังระดมพลเข้าทำการดับไฟอย่างเต็มที่ แต่ในส่วนของตัวหมู่บ้าน ได้มีการทำแนวกันไฟล้อมรอบทั้งหมดแล้ว จึงมั่นใจได้ว่า จะไม่มีไฟลุกลามเข้าไปในเขตหมู่บ้านได้
นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ไฟป่าที่เขาคอกช้างยังเหลือในส่วนของบริเวณที่เป็นหุบเขาด้านหลังหมู่บ้านคอกช้าง ที่ยังคงมีไฟเกิดขึ้นให้ได้เห็น และได้มีการทำแนวกันไฟดักเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และกำลังส่วนหนึ่งก็เร่งเข้าดับไฟที่ยังลุกไหม้อยู่อย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่า น่าจะควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้โดยเร็ว และหลังจากพูดคุยระหว่างหลายหน่วยงานร่วมกัน ทั้งนี้คาดว่าสาเหตุไฟไหม้ครั้งนี้ น่าจะเกิดจากน้ำมือของมนุษย์ แต่ยังไม่สามารถระบุถึงแรงจูงใจในการจุดไฟเผาป่าที่แน่ชัดได้ แต่ตอนนี้สันนิษฐานมุ่งประเด็นไปที่บุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากเหตุการณ์ไฟป่า โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีอาชีพตัดฝืน เผาถ่าน ที่อาจจะได้ประโยชน์จากการเกิดไฟป่าทำให้มีไม้ฟืนในป่าเพิ่มขึ้น
หรือในกรณีที่พยายามจะทำให้ป่าและต้นไม้หยุดการเจริญเติบโต เพื่อที่จะเข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าได้ง่าย ซึ่งในส่วนนี้ ได้กำชับให้ทางอำเภอร่วมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่หาข่าว เพื่อติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว และเป็นการป้องปรามไม่ให้กลุ่มที่กำลังคิดหรือพยายามที่จะกระทำการหยุดพฤติกรรมเหล่านี้ด้วย
นายสุรพันธ์กล่าวว่า สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไฟป่าในครั้งนี้นั้น เนื่องจากสภาพป่าเขาคอกช้างส่วนใหญ่ เป็นป่าเต็งรัง มีต้นไม้ใหญ่เบาบาง ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มต้นเพ็กและไผ่ ปกคลุม และเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งต้นไผ่และเพ็กเหล่านี้ก็จะแห้งเหี่ยว รวมกับเศษกิ่งไม้ใบไม้แห้งที่ร่วงหล่น ทำให้กลายเป็นเชื้อเพลิง ส่งผลให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว แต่ก็ส่งผลต่อไม้ยืนต้นน้อย ทำให้สภาพป่าไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ประเมินว่าน่าจะมีพื้นที่เขาคอกช้างถูกไฟป่าเผาไปแล้วปราณ 1,000 ไร่
