คุมตัว โน๊ต-เข้ ฆ่ายกครัว 3 ศพ ฝากขัง ตร.ค้านประกันตัว ‘โน๊ต’ ลั่น อยากขอโทษแต่สายไปแล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่สถานีตำรวจภูธรคลองขลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุม นายศิวกร หรือโน้ต และนายนิรุตย์ หรือ เข้ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกำแพงเพชร หลังจากควบคุมตัวและมีการสอบสวนครบ 48 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการคัดค้านการประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า เกรงว่าจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักและเป็นอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และมีพฤติกรรมที่โหดเหี้ยม บรรยากาศในช่วงเช้ามี นายนัส พี่ชายนายโน๊ต ที่เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์มารับนายโน๊ตหลังนำศพมาทิ้งในบ้านร้าง
โดย นายนัส พี่ชายให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากน้องชายโทรหาแม่บอกให้ไปรับ แม่ก็ให้ตนเองไปรับแทน ซึ่งนายโน๊ตก็ได้โทรศัพท์มาหาตัวเองเพื่อให้ไปรับกลับบ้าน ซึ่งวันนั้นตัวเองก็ไม่รู้ว่าน้องชายไปก่อเหตุมา จึงได้รับกลับบ้านตามปกติ ซึ่งวันนี้ตัวเองก็จะมาให้ปากคำกับตำรวจ ยืนยันว่าไม่ได้หนักใจอะไร ส่วนตัวเองวันนี้ยังไม่ได้เข้าเยี่ยมน้องชาย แต่ก่อนหน้านี้มีแม่มาเยี่ยมน้องชายไปแล้ว ซึ่งเขาก็ไม่ได้ฝากอะไร แต่เขาเป็นคนที่รักสุนัขพันธุ์ชิวาวาชื่อว่าข้าวหอม ซึ่งเป็นสุนัขที่ตัวเองซื้อให้เค้าเลี้ยง เขารักสุนัขตัวนี้มาก ส่วนเรื่องประกันตัวยืนยันว่าทางครอบครัวจะยังไม่มีการยื่นประกันตัวน้องชายแต่อย่างใด
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงแจ้งข้อหานายโน๊ตและนายเข้ ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,ร่วมกันลอบฝังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย,ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอันสมควรแก่พฤติการณ์
ทั้งนี้ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปฝากขังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญแพทย์เข้ามาตรวจร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยนายโน๊ตนั่งคู่กับภรรยาที่เข้ามาเป็นพยานและร่วมสอบปากคำเพิ่มเติม ทั้งคู่นั้นอยู่ในอาการเครียดตลอดเวลา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายโน๊ตออกมาก่อนด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่ยอมพูดจาหรือตอบคำถามใดๆ
แต่เมื่อเข้าไปภายในรถควบคุมตัวผู้ต้องขัง นายโน๊ต กล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า “ผมขอโทษทุกคนก็ได้ครับพี่” ผมอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ ทุกอย่างแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ไม่เสียใจที่ญาติไม่มาประกันตัวตนสมควรโดนแล้วครับ ผมขอรับผิดคนเดียว ขอโทษเข้ตั้งแต่ในห้องขังแล้วที่ต้องพาน้องมาผิดด้วย
ส่วนเรื่องลักทรัพย์ในบ้านนายใหม่ ตำรวจนำตัวตนมาพิมพ์ลายนิ้วมือคนเดียว คนในบ้านเขาก็ไม่มีใครเชิญตัวมา ทั้งนี้ยังมีประโยคเด็ด “นักข่าวตีข่าวมาที่ผมคนเดียวได้เลยครับ คนอื่นไม่ได้รู้เรื่อง อยากขอโทษครอบครัวเขา แต่ขอโทษไปก็สายแล้วครับ” ส่วนเรื่องโทรศัพท์ของคนตาย ถามว่าเอาไปไว้ไหน นายโน๊ตก็ตอบมาด้วยท่าทางไม่พอใจพร้อมตะคอกมาว่า “ผมคงเอาใช้เองแล้วมั้งครับพี่ ก็บอกว่าเอาไปโยนทิ้งแล้ว”
