เปิดตลาดท่องเที่ยวทางเรือ นำ ทิพยานจิต ล่องแม่น้ำปิง กระตุ้นเศรษฐกิจสองฝั่งเมืองเชียงใหม่
ช่วงนี้ทั้งชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวต่างพากันตื่นเต้นและตกใจกับการได้เห็น เรือทอง ล่องลอยอยู่กลางสายน้ำปิงทุกยามเย็นในช่วงสุริยาสาดแสงเป็นประกาย
ทิพยานจิต คือชื่อของศิลปะลอยน้ำแห่งล้านนา สุดแสนตระการตาและน่าหลงใหล จากไอเดียบรรเจิดของ อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชื่อดัง ที่ได้แรงขับเคลื่อนจาก อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา กลุ่มธุรกิจชื่อดัง เจ มาร์ท-JMART เจ้าของ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เป็นพลังหนุน และ เจริญ มาบุตร ศิลปินจิตรกรรมมาช่วยเติมเต็มผลงานให้สมบูรณ์
อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวว่า ผมหลงใหลในเรือของอยุธยาสมัยโบราณ โดยเฉพาะเรือที่มีดีไซน์แปลกและพิเศษ และสนุกกับการศึกษาเรือเหล่านี้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการทำงาน ผลงานของผมเกี่ยวกับสรวงสวรรค์อยู่แล้ว จึงตัดสินใจออกแบบเรือ ทิพยานจิต โดยนำแรงบันดาลใจจากเรือในสมัยอยุธยามาผสมผสานกับสไตล์ของผม เป็นเรือที่พาผู้คนล่องไปสู่โลกแห่งสรวงสวรรค์ การวาดเรือเป็นความฝันส่วนตัวที่ผมหลงใหลมาโดยตลอด ผมอยากสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นสมบัติของชาติ ไม่ใช่แค่เพียงเพื่อโรงแรม แต่ต้องเป็นสิ่งที่พิเศษจริงๆ ทิพยานจิต จึงเป็นเรือที่เกิดจากความฝันของผม เป็นเรือที่มีคุณค่าทางสุนทรียศาสตร์อย่างล้ำลึก
นายพิทักษ์ นรเทพกิตติ ผู้จัดการทั่วไป อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท กล่าวว่า เพราะเราไม่ใช่เพียงแค่โรงแรมเท่านั้น แต่ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท คือ ตำนานทางประวัติศาสตร์ จากตัวอาคารสไตล์โคโลเนียล ที่เคยเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่มาก่อน มีรางวัลอนุรักษ์ศิลปสถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคาร ประจำปี 2532 (ค.ศ.1989) จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นตัวการันตีในอาคารเก่าและสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันจะมีอาคารห้องพัก 4 ชั้น รูปตัวแอลแบบร่วมสมัย แต่การเลือกใช้ไม้สักเป็นหลัก ยิ่งเพิ่มเสน่ห์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ให้กับตัวอาคาร 1921 ได้อย่างลงตัว พร้อมห้องพักกว่า 84 ห้อง ที่เน้นความเรียบหรู สวยงาม และกว้างขวาง ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และอบอุ่นจากไม้ เน้นสีสันและของตกแต่งในโทนสีธรรมชาติ ระเบียงกว้างมองเห็นพื้นที่สวนอันเขียวขจีด้านนอก และวิวแม่น้ำปิงที่รินไหลผ่านรีสอร์ต
“ไม่อยากให้ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เป็นแค่เจ้าหญิงนิทรา เราจึงเติมชีวิตชีวา และเพิ่มสีสันให้กับเจ้าหญิงที่มีความสวย สง่างาม แต่ร่าเริง สนุกสนาน ที่ผู้คนเข้าถึงง่าย เพื่อตอบโจทย์เทรนด์ของนักเดินทางที่เปลี่ยนไป ที่ไม่เพียงแค่การพักผ่อน แต่เป็นการเดินทางที่เปี่ยมไปด้วยความหมายที่น่าจดจำ ทำให้กลุ่มลูกค้าหลังผ่านสถานการณ์โควิด-19 มีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า ด้วยแผนการตลาดที่แยบยลและไม่เสี่ยง คือ แม้เราจะรักจีน แต่เราก็พร้อมต้อนรับฝรั่ง ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป ออสเตรเลีย และไม่ทิ้งเอเชีย รวมทั้งกลุ่มคนไทย ทั้งหมดอยู่ในสัดส่วน 33-35% เท่าๆ กัน เพราะจุดตัดของการทำธุรกิจไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นเท่านั้น แต่ในช่วงโลว์ซีซั่นเรารอดหรือเปล่า ซึ่งเราทำได้ 100% เราปรับห้องพักเพิ่มความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น เติมเครื่องฟอกอากาศทุกห้อง เจาะลึกเรื่องอาหาร เครื่องดื่ม ทุกอย่างต้องพรีเมียม เพราะสองฝั่งแม่น้ำปิง เดิมคือชุมชนที่มีความหลากหลาย เป็นพหุวัฒนธรรม ที่มีทั้งไทย คริสต์ อิสลาม มีโบสถ์ มัสยิด มีวัด และเจดีย์ เพราะการทำการค้าในอดีต เราจึงฟื้นความรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้ง แต่จะให้ลากท่อนซุงกลับมาโชว์ก็ไม่ใช่ เราแค่อยากกระตุ้นให้เกิดสองฝั่งแม่น้ำปิงกลับมาโชติช่วงอีกครั้ง อยากเห็นการประดับไฟ การรักษาความสะอาด สร้างชีวิตใหม่ให้ร้านค้า ผู้ประกอบการ เกิดกระแสการทะนุถนอมแม่น้ำปิง สร้างสมดุลที่ดี มีการหมุนเวียนทางด้านเศรษฐกิจยิ่งๆ ขึ้นไป”
นายพิทักษ์กล่าวอีกว่า เราจึงนำเรือมาล่องเจ้าปิง เริ่มจากเรือน้ำใจ๋ และเรือน้ำจิต จัดโปรแกรมล่องเรือเช้า (Sunrise Cruise) เที่ยวชมวัดเกตการาม วัดที่มีความเก่าแก่คู่เมืองเชียงใหม่และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แวะชิมข้าวเกรียบปากหม้อและสาคูไส้หมูเจ้าดังที่ร้านลุงขจร มีรางวัลบิบกูร์มองด์ ร้านอาหารอร่อยคุ้มค่าในราคาย่อมเยาจากมิชลินไกด์ พร้อมบันทึกภาพบนขัวเหล็กชมวิวดอยสุเทพและแม่น้ำปิง ล่องเรือจิบน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea Cruise) สไตล์อังกฤษในบรรยากาศใกล้ชิดวีถีชีวิตล้านนา หรือการล่องเรือช่วงเย็น (Twilight Voyage) ในบรรยากาศสบายๆ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จิบเครื่องดื่มเย็นๆ แกล้มอาหารเรียกน้ำย่อย โดยล่องเรือขึ้นเหนือไปตามลำน้ำแม่ปิงชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ผ่านพรรณไม้เขียวขจี อาทิ ต้นฉำฉาขนาดใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง บ้านเรือนและสะพานต่างๆ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ล่าสุด การเปิดประสบการณ์ครั้งใหม่สุดอลังการ กับ “ทิพยานจิต” ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สุด คือ คำตอบ เพราะเรือทองลำนี้จะเป็นลำแรกและลำเดียวของอาจารย์เฉลิมชัยที่จะฝากเอาไว้เป็น “มรดกของชาติ” ตัวเรือทำมาจากไฟเบอร์กลาสน้ำหนักเบา ประดับด้วยสัตว์ในเทพนิยาย ช้าง นก ปลา หงส์ และลิง เป็นการรวมรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เอาไว้ครบจบในที่เดียว ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปดื่มด่ำและเป็นส่วนหนึ่งของชิ้นงานศิลปะลอยน้ำที่ทรงคุณค่า เป็นงาน Immersive Art ที่ยิ่งกว่า Soft Power อันแสนวิจิตร ระหว่างอิ่มอร่อยไปกับอาหารไทยมื้อพิเศษ 7 คอร์สจากเชฟ “บอย” แห่งร้านเสน่ห์จันทร์ ระดับดาวมิชลิน จิบเครื่องดื่มรสนุ่ม พร้อมเพลิดเพลินไปกับการแสดงดนตรีไทย และการฟ้อนแบบล้านนาที่สวยงาม ก่อนลงเรือสามารถยืมชุดไทยเพื่อถ่ายภาพเก็บความสุขนี้ไว้ พร้อมของขวัญที่ระลึก ทั้งภาพเรือทิพยานจิต 100 ท่านแรก ภาพถ่ายระหว่างล่องเรือ และขนมอร่อยกลับที่พัก ช่วยให้นอนหลับฝันดีเลยเชียว
ทิพยานจิต ออกจากท่า ล่องม่วน ทุกวันเวลา 17.30 น.
