ศุลกากรจันทบุรี ทำลายของกลางบิ๊กล็อตตกเป็นของแผ่นดิน ประเภทบุหรี่ไฟฟ้าอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า เบียร์ต่างประเทศ ที่คดีสิ้นสุด 67 แฟ้มคดี ปริมาณ 245,058 ชิ้น มูลค่าความเสียหายต่อภาครัฐกว่า 19.5 ล้านบาท
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่พื้นที่สาธารณประโยชน์ของเทศบาล ต.ปัถวี (บ้านหนองแหลบ) ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี ซึ่งห่างไกลจากแหล่งชุมชน นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผวจ.จันทบุรี พร้อมด้วย นายยอดพล วิชญกุล นายด่านศุลกากรจันทบุรี นางนิภาวรรณ ใยบัวเทศ ผอ.สนง.ศุลกากรภาคที่ 1 นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผบ.ฉก.นย.จันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นสักขีพยาน
กับด่านศุลกากรจันทบุรี ในการทำลายบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมอุปกรณ์ บุหรี่ต่างประเทศ บุหรี่ละเมิดเครื่องหมายการค้า และเบียร์ต่างประเทศ ของกลางที่ตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายศุลกากร ที่คดีถึงที่สุดจำนวน 67 แฟ้ม รวมทั้งสิ้น 245,058 ชิ้น มูลค่าความเสียหายต่อภาครัฐกว่า 19.58 ล้านบาท
นายยอดพล วิชญกุล นายด่านศุลกากรจันทบุรี กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากตามนโยบายของ นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กำชับให้เจ้าหน้าที่ เข้มงวดในการปราบปรามผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าและจำหน่ายบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า รวมทั้งสินค้าที่มีอัตราภาษีสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ของประเทศ เพื่อปกป้องสังคมและเสริมสร้างความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน
ซึ่งการทำลายของกลางในครั้งนี้ เป็นของกลางที่ตรวจยึดให้ตกเป็นของแผ่นดิน และเป็นคดีสิ้นสุด 67 แฟ้มคดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อภาครัฐเกือบ 20 ล้านบาท ซึ่งถือว่า เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงาน ซึ่งการทำลายของกลาง เพื่อให้ปรากฏต่อสาธารณชน แสดงให้ว่ามีการดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง ปกป้องสังคมและการกระทำผิดกฎหมาย
ส่วนที่ยังมีการลักลอบบุหรี่ไฟฟ้า ของหนีภาษีที่มีการตรวจพบจับกุมได้ ส่วนใหญ่จะมีการลักลอบติดมากับรถ ซึ่งเป็นรถดัดแปลง และอำพรางตบตาเป็นรถรูปแบบของขนส่งสินค้าต่างๆ นอกจากนี้ยังฝากถึงผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง ให้หมั่นเอาใจใส่ดูแบบุตรหลาย นักเรียน นักศึกษา เนื่องจากจะเห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้า ปัจจุบันเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนมาในรูปลักษณ์ รูปตุ๊กตาเด็กน่ารัก ก็ขอให้พยายามหมั่นสังเกต แต่ทางในส่วนของเจ้าหน้าที่ จะพยายามกวาดล้างจับกุมอย่างต่อเนื่อง เพราะบุหรี่ไฟฟ้า เป็นของต้องห้าม ห้ามนำเข้าและเพื่อการค้า ต้องขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วนร่วมกันปราบปรามอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง “กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557” ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 การลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าถือเป็นความผิดตามมาตรา 246 ประกอบมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาสินค้ารวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับบุหรี่ละเมิดเครื่องหมายการค้า ถือเป็นสินค้าต้องห้ามนำเข้า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง “กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าต้องห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า และห้ามผ่านราชอาณาจักร พ.ศ.2565” ลงวันที่ 27 มีนาคม 2565
ส่วนบุหรี่ต่างประเทศและเบียร์ต่างประเทศเป็นสินค้าที่ต้องขอใบอนุญาตในการนำเข้าจากกรมสรรพสามิต การลักลอบนำเข้าสินค้าดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาสินค้ารวมค่าอากร หรือทั้งจำทั้งปรับ