ระเบิดป่วนสนามบินนราฯ รับทักษิณ ลง 3 จว.ชายแดนใต้ มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย คาดแสดงสัญลักษณ์
เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ต.อ.วีรยุทธ ตาสีพันธ์ ผกก.สภ.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่บริเวณข้างหอบังคับการบิน ภายในบริเวณสนามบินบ้านทอน (ท่าอากาศยานนราธิวาส) ตั้งอยู่บ้านฮูแตทูวอ ม.4 ต.โคกเคียน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมเดินทางร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุกับ พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ 6955 นราธิวาส เป็นของนายมูฮามัดยือรี อาแวบือซา ชาว ม.7 ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประจำท่าอากาศยานนราธิวาส ซึ่งจอดอยู่หัวเลี้ยวข้างอาคารตรงข้ามหอบังคับการบิน อยู่ในสภาพไฟเลี้ยวท้ายด้านขวาหลุดออกมา จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายได้แอบลอบนำระเบิดแสวงเครื่องที่บรรจุใส่ไว้ในกล่องเหล็ก หนักประมาณ 2-3 กก. จุดชนวนด้วยรีโมต นำไปวางไว้ที่บริเวณคัทซีข้างถังน้ำมันเชื้อเพลิง แต่โชคดีอานุภาพของระเบิดไม่มีส่วนประกอบของสะเก็ดระเบิด ทำให้ไม่สามารถเป็นเหตุให้ถังน้ำมันเชื้อเพลิงเกิดระเบิดขึ้น แต่ทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินทั้ง 4 ราย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากเสียงของระเบิด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในสนามบิน ได้ถูกนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย 1.นายมูฮาหมัดคาดาฟี เดลาห์ อายุ 24 ปี ม.3 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก 2.นายอาพาเร็น เจ๊ะอูมา อายุ 39 ปี ม.5 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก 3.นายมาหามะยุซรัน เจ๊ะแต อายุ 28 ปี ถ.สะแต 2 ต.บาเจาะ อ.เบาะเจาะ จ.นราธิวาส มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก และ 4.นางสาวอาดีละห์ ลีตี อายุ 29 ปี ม.1 ต.ละหาร อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส มีอาการหูอื้อ แน่นหน้าอก เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้อนุญาตให้กลับไปพักรักษาตัวที่บ้าน
ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผบก.ภ.จว.นราธิวาส กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่ากลุ่มคนร้ายแอบลอบนำระเบิดไปไว้ใต้ท้องรถกระบะ เพื่อสร้างสถานการณ์ปั่นป่วนในเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่มุ่งหวังต่อชีวิต ในขณะที่ผู้ใหญ่ระดับสูงลงมาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งไล่กล้องวงจรปิดรถกระบะคันดังกล่าว จากบ้านพักไปยังสถานที่ทำงาน ว่ากลุ่มคนร้ายได้ฉวยโอกาสแอบนำระเบิดไปวางในช่วงเวลาใด โดยเจ้าหน้าที่จะเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพัก และบริเวณสวนปาล์มใกล้บ้าน ในการแกะรอยว่าพบเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุหรือไม่อย่างไรต่อไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาก่อนที่เครื่องบินของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึงท่าอากาศยานจังหวัดนราธิวาส เพื่อเดินทางไปพบปะผู้บริหารสถานศึกษา ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ในการหารือเพื่อพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
